ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับเรื่องดังกล่าวไว้วินิจฉัย เนื่องจากต้องรัฐธรรมนูญมาตรา 82 และพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (5) และมีคำสั่งให้นายนวัธ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย เนื่องจากเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบคำร้องปรากฏชัดเจนว่า ศาลจังหวัดขอนแก่นได้มีคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิตนายนวัธ
โดยศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์และศาลจังหวัดขอนแก่นได้ออกหมายจำคุกระหว่างอุทธรณ์นายนวัธตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 62 เป็นต้นไป จึงปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องแล้วล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าความเป็นสมาชิกสภาพส.ส.ของนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.เขต 7 พรรคเพื่อไทยพ้นจากการเป็น ส.ส. โดยมีรายละเอียดดังนี้
วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจ ดังนี้
๑. คณะกรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายนวัธ เตาะเจริญสุข สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา๑๐๑ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๖) หรือไม่
ผลการพิจารณาศารัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรมนูญ มาตรา ๑๐๑ (๒) ประกอบมาตร ๙๘ (๖) นับแต่วันที่ศาลรัฐธรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตร ๘๒ วรรคสอง คือ วันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๒
เมื่อสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงทำให้มีตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลงและต้องดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐๕ วรรคหนึ่ง (๑)ประกอบมาตร ๑๐๒ จึงให้ถือว่าวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่งลง คือ วันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๗๖ วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลมีผลในวันอ่านคือ วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
๒. พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๒ วรรคหนึ่ง หรือไม่
ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๗๒ วรรคหนึ่ง