พลโท คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผลการประชุมสภากลาโหม ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน โดย พลเอก ประยุทธ์ ได้มอบนโยบายในที่ประชุมให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ สนับสนุนการจัดประชุมอาเซียนซัมมิทครั้งที่ 35 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเรื่อง สารัตถะ การรักษาความปลอดภัย การต้อนรับผู้นำประเทศที่ท่าอากาศยานทหาร การรนำเข้าอาวุธเกี่ยวข้องในการรักษาความปลอดภัยตามการร้องขอประเทศต่างๆ โดยให้ดำเนินการเรียบร้อยตรงตามวัตถุประสงค์ และสมเกียรติ ในการเป็นประธานอาเซียน
นอกจากนี้ยังรวมถึงการจัดประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน และงานนิทรรศการแสดงอาวุธ หรอ Defense & Security โดยนำบทเรียนในอดีตมาปรับปรุงเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ส่วนการประเมินคุณธรรมความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ ซี่งในภาพรวมแม่กระทรวงกลาโหม จะมีเกณฑ์ผ่าน 85% ในรอบ 5 ปี แต่มีบางหน่วยที่ไม่ผ่านเกณฑ์ เช่น องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก หรือ อผศ. ซึ่งถูกประเมินครั้งแรก
ดังนั้นขอให้หน่วยที่ผ่าน รักษามาตรฐานไว้ ส่วนที่ไม่ผ่านก็ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการทุจริตส่วนการเตรียมชี้แจงงบประมาณ หรือการถูกโจมตีจากฝ่ายค้านนั้น พลเอก ประยุทธ์ ได้สั่งการไว้ว่า ให้แต่ละเหล่าทัพเตรียมชี้แจงเหตุผลความจำเป็นต่อสภาผู้แทนราษฎร โดนไม่พูดผ่านสื่อ เพราะข้อมูลอาจคาดเคลื่อนและป้องกันความเข้าใจผิดจากประชาชน
ส่วนการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการทหาร หรือกรรมาธิการอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้ดูข้อกฎหมาย และวิธีปฏิบัติ ถ้าจำเป็นก็ไป หรือส่งตัวแทนได้ก็ส่ง โดยเป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยขณะมี่ปัญหาเฟคนิวส์ ถือเป็นปัญหาที่เกิดในทุกประเทศ ขอให้ทุกเหล่าทัพให้ข้อมูล ความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชน และติดตามข้อมูลเท็จ พร้อมรีบให้ข่าวที่ถูกต้อง หากมีการเผยแพร่ข่าวเท็จก็ให้ดำเนินการตามข้อกฎหมาย ซึ่งทุกกระทรวงก็ทำลักษณะเดียวกัน
เมื่อถามถึงกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศิวิไลย์ เผยว่ามีข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง ว่ามีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนับร้อยคนจากพื้นที่ภาคใต้ เตรียมจะก่อเหตุรุนแรง
พลโท คงชีพ กล่าวว่า ยังไม่มีรายข่าวเรื่องดังกล่าว แต่ยืนยันเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับทุกรูปแบบ ดูแลความปลอดภัยผู้นำ 18 ประเทศ ที่จะเดินทางมา รวมทั้งรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนและรัฐมนรีต่างประเทศอาเซียนด้วย โดยจะไม่ให้กระทบภทพลักษณ์ หรือเกิดปัญหาซ้ำรอยเหมือนการประชุมอาเซียนในปี 2552
พร้อมขอประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังสิ่งผิดสังเกต ไม่ประมาท ส่วนการข่าวก็มีประสานกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพื่อดูแลความปลอดภัยผู้นำอย่างไรก็ตาม หลังจบการประชุมสภากลาโหม พลเอก ประยุทธ์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าให้โฆษกแถลงข่าว และขึ้นรถไปทันที