svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

เสนาฯ ชง รัฐบาลใหม่กระตุ้นตลาดอสังหาฯ

07 มิถุนายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ หรือ SENA ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ระบุ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังปี 2562 ปีหลัง มีแนวโน้มเติบโตไม่มากนักเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัว และมาตรการกำกับดูและสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ มาตรการ LTV ซึ่งเป็นมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการจะเสนอรัฐบาลใหม่ให้เข้ามากระตุ้นธุรกิจในภาคอสังหาฯ เพราะต้องยอมรับว่าภาคอสังหาฯเป็นกลุ่มตลาดที่มีผลต่อการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโต ดังนั้นหากภาคธุรกิจในกลุ่มอสังหาฯชะลอตัว ก็จะมีผลต่อการเติบโตเศรษฐกิจไทยเช่นกัน โดยมาตรการที่รัฐบาลใหม่ควรนำมาใช้อีกครั้ง คือ มาตรการลดค่าจดทะเบียนการโอน และลดค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ในกลุ่มสินค้าอสังหาฯที่คนซื้อมาก คือ ราคาอสังหาฯตั้งแต่ 2-3 ล้านบาท หรือ 3-5 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนถึง 60% ของการซื้ออสังหาฯภาพรวม แต่รัฐบาลออกมาตรการนี้ให้เเฉพาะบ้านที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1 ล้านบาทเท่านั้น จึงควรขยายไปยังกลุ่มอื่นๆด้วย ดังนั้นในแง่การเติบโตของยอดซื้ออสังหาฯคงยังประเมินไม่ได้ ส่วนมูลค่าการเติบโตของตลาดอสังหาฯในปีนี้คาดว่ายังโตได้ประมาณ 5-10%
สำหรับ โครงการหมู่บ้านใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ภาคประชาชน ขณะนี้ บมจ.เสนาดีเวลลอปเมนท์ ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่อยู่อาศัย (โซลาร์รูฟท็อป) ทุกหลังในทุกโครงการของเสนาฯ ทำให้ลูกบ้านประหยัดค่าไฟฟ้าและมีโอกาสที่จะนำไฟฟ้าส่วนเกินขายเข้าระบบผ่านโครงการโซลาร์ภาคประชาชน ล่าสุดคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือกกพ. ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดให้ยื่นสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. เป็นต้นไป โดยจะรับซื้อโซลาร์ภาคประชาชนส่วนเกิน 100 เมกะวัตต์ สัญญา 10 ปี ราคา 1.68 บาท/หน่วย 
อย่างไรก็ตาม เสนาฯจะเป็นผู้ยื่นให้กับลูกบ้านแล้วโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกบ้าน ตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีจะมีลูกบ้าน 170 หลัง ที่มีการติดมิเตอร์และขายไฟฟ้าส่วนเกินได้ แต่หากถามถึงความคุ้มค่า ยอมรับว่าราคาที่รับซื้อ 1.68 บาท/หน่วย ยังต่ำไปสำหรับกลุ่มลูกบ้านที่มีการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟเพื่อขายไฟฟ้าดังกล่าวออกไป ซึ่งจะคุ้มค่าสำหรับกลุ่มที่ไม่ได้อยู่บ้านเป็นประจำทุกวันและเหลือไฟฟ้าส่วนเกินนี้ สามารถนำมาขายได้ แต่หากเทียบกับการซื้อไฟฟ้าปกติ ถือว่าการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปจะมีต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำกว่าไฟฟ้าปกติประมาณ 3-4 บาท อีกทั้งแผงโซลาร์มีอายุการใช้งานนานถึง 25 ปี ทำให้ลูกบ้านประหยัดค่าใช้จ่ายได้   
อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลใหม่ต้องการให้มีการเพิ่มเรื่องโซลาร์ภาคประชาชน ก็ควรเพิ่มราคาซื้อไฟฟ้าส่วนเกิน จะทำให้มีคนสนใจเข้าโครงการมากขึัน  

logoline