ภายหลังการเคลื่อนย้ายร่าง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองมนตรี และ รัฐบุรุษ ที่ถึงแก่อสัญกรรม ด้วยวัย 98 ปี ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยทางกองทัพเคลื่อนร่างที่ประดับด้วยธงชาติอย่างสมเกียรติ มาจากอาคารสมเด็จย่า 90 โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าฯ มายัง ณ พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร หลังจากที่นำร่างของพลเอกเปรม ไว้ภายในพระที่นั่งทรงธรรมเรียบร้อยแล้ว จึงเปิดโอกาสให้ข้าราชการ นักการเมือง ญาติ เข้าร่วมเคารพ แสดงความอาลัย โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา รองศาสตราจารย์ นราพร จันทร์โอชา มาร่วมเคารพและอาลัย
หลังจากนั้นมีบรรดาญาติที่เดินทางมาจากจังหวัดสงขลา เข้าร่วมเคารพ ท่ามกลางความโศกเศร้า และการหลั่งน้ำตาของบรรดาญาติ นอกจากนี้ยังมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่นายทหาร ชมรมศิษย์เก่ามหาวชิราวุธ ศิษย์เก่าสวนกุหลาบ นักการเมือง อาทิ วราวุธ ศิลปอาชา นิกร จำนงค์ มาร่วมไว้อาลัย
เวลา 16.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และ อันเชิญพวงมาลาหลวงจากพระบรมวงศ์ษานุวงศ์ และ พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมในเวลากลางคืน ถึงวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน
สำหรับภายในวัด อยู่ระหว่างการจัดเตรียมสถานที่ เพื่องรองรับบุคคลสำคัญที่จะมาร่วมงาน โดยการตั้งเต็นท์โดยรอบภายใน
โดยทางมูลนิธิรัฐบุรุษ และ ทางกองข้าราชบริพารในพระองค์ สำนักพระราชวัง ได้จัดเตรียม สถานที่โดยแบ่งเป็นระดับบุคลสำคัญ ให้ร่วมไว้อาลัยที่พระที่นั่งทรงธรรม
ส่วนประชาชนบุคคลทั่วไป ได้เเตรียม พื้นที่ศาลาบัณณรศภาค ซึ่งอยู่ติดกัน พระที่นั่งทรงธรรม ให้บุคคลทั่วไปร่วมไว้อาลัย
สำหรับ พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงสร้างอุทิศแก่สมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดีเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ผู้เป็นพระราชโอรส เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะทรงใช้พระที่นั่งทรงธรรมแห่งนี้ เป็นที่ประทับแรมเมื่อเสด็จพระราชดำเนินมาทรงธรรมรักษาอุโบสถศีล ต่อมา ได้ใช้เป็นที่ประชุมสังฆมนตรี ที่ศึกษาพระปริยัติธรรม นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้เป็นที่ตั้งพระศพและ ศพบุคคลสำคัญ เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศล
.
.