svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

หวั่นสงครามการค้า จีน สหรัฐฯ บานปลาย สู่สงครามอาวุธ

25 พฤษภาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน ดูจะหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ทางด้านสหรัฐฯ สั่งให้แบนผลิตภัณฑ์ ของหัวเหว่ย และแน่นอนหนึ่งในนั้น ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่างกูเกิ้ล จำต้องทำตามคำสั่งของรัฐบาล สหรัฐฯ มองว่านี่คือความได้เปรียบที่จะใช้เป็นไม้ตายในการกดดันจีน เพราะหัวเหว่ย บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนนั้น จำเป็นต้องใช้ ระบบปฎิบัติการแอนดรอยส์ ของกูเกิ้ล ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหากับผู้ใช้ แต่ทว่า ผิดคาด เพราะหัวเหว่ยได้ซุ่มพัฒนาระบบปฎิบัติการ "Hongmeng" (หงส์เม้ง) มากว่า 7 ปีแล้ว

ระบบปฏิบัติการ "Hongmeng" ซึ่งก็ยังไม่มีข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะใช้ชื่อนี้จริงหรือไม่หรือเป็นแค่รหัสชื่อเรียก นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทางค่ายได้ใช้งานระบบ OS ดังกล่าวอย่างเงียบๆ มาเป็นเวลาหลายปี
HongMeng OS ซึ่งมีรากฐานมากจากระบบปฏิบัติการณ์ Linux นั้น ได้ถูกเริ่มพัฒนาขึ้นมาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2012 ในมหาวิทยาลัย Jiaotong กรุงเซี่ยงไฮ้ ซึ่งก็ได้มีการทดลองนำเอาไปใช้กับอุปกรณ์และแก็ตเจ็ตต่างๆ ของ Huawei ไปบ้างแล้ว และเพิ่งจะได้รับรางวัลสุดยอดนวัตกรรมจากกระทรวงศึกษาไปเมื่อปี 2018 นี้เอง
เมื่อไม่ได้อย่างที่คาด สหรัฐฯ รีบกลับลำทันที เพราะ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศชะลอการคว่ำบาตรหัวเว่ย เทคโนโลยี เป็นเวลา90วันไปจนถึงวันที่ 19 ส.ค.เพื่อให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนและบรรดาบริษัทคู่ค้าได้มีเวลาอัพเดทซอฟต์แวร์และข้อบังคับตามสัญญาในด้านต่างๆคำสั่งนี้จะเปิดโอกาสให้หัวเว่ยได้อัพเดทซอฟท์แวร์เพื่อให้ผู้ใช้ยังคงสามารถใช้งานโทรศัพท์ของบริษัทได้ การประกาศยกเลิกคำสั่งแบนชั่วคราว ทำให้กูเกิลยังคงสามารถร่วมงานกับหัวเว่ยได้ต่อไป
ขณะที่ทางด้าน "เหริน เจิ้งเฟย" ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัทหัวเว่ย ให้ข้อมูลว่า บริษัทของเขาเผชิญกับสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดในช่วงก่อนที่จะเกิดคดีเหม็ง ว่านโจว ลูกสาวของเขาถูกจับกุมที่แคนาดาเมื่อปลายปีที่แล้ว เพราะช่วงนั้น พนักงานบางคนเกียจคร้าน ไม่อยากทำงาน เพราะรู้สึกว่ามีเงินในกระเป๋าอยู่แล้ว จึงไม่เต็มใจที่จะทำงานที่ยาก ๆ แต่หลังจากที่บริษัทเจอกับปัญหา ศักยภาพของบริษัททั้งบริษัทก็เดินหน้าเติบโตเต็มที่ พนักงานต่างก็ไม่ยอมทำอะไรที่ธรรมดาอีกต่อไป แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าบริษัทอยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดได้อย่างไร ต้องเรียกว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดีที่สุดจึงจะถูก วันนี้สหรัฐอาจจะโจมตีหัวเหว่ย และหัวเหว่ยก็อาจจะทรุดลงนิดหน่อย แต่บริษัทก็จะกลับมาได้อีกครั้ง
เขายังสำทับอีกว่าที่ผ่านมาหัวเหว่ยมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีเรียบร้อยแล้ว หัวเว่ยเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ยืดเยื้อ ไม่ใช่สำหรับการต่อสู้แค่สั้น ๆ และบางที ด้วยการต่อสู้ที่ยาวนาน บริษัทก็อาจจะแข็งแกร่งมากกว่าเดิม
ขณะที่ทางด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวส่งสัญญาณว่า จีนพร้อมที่จะทำสงครามการค้าที่ยืดเยื้อกับสหรัฐฯ
"เราอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทัพทางไกล เพื่อระลึกถึงช่วงเวลาที่กองทัพแดงได้เริ่มออกเดินทัพ ขณะนี้ เรากำลังเตรียมเดินทัพทางไกลครั้งใหม่ และเราจะต้องเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง" ผู้นำจีน ได้กล่าวปราศรัยที่มณฑลเจียงสี
แม้ว่าเขาไม่ได้ระบุถึงสหรัฐฯ หรือการทำสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ แต่ถ้อยคำของเขาก็ถูกตีความว่า เป็นการส่งสัญญาณว่าจีนจะไม่ยอมแพ้ต่อสหรัฐฯ ในเร็วๆนี้ ซึ่งการเดินทัพทางไกลเป็นการเดินทัพของกองทัพแดงในการทำสงครามกลางเมืองของจีนในช่วงทศวรรษ 1930นอกจากนั้น สี จิ้นผิง ได้เยี่ยมชมบริษัทผลิตแร่หายากในมณฑลเจียงสี ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า จีนอาจใช้แร่หายากเป็นเครื่องมือตอบโต้ในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ โดยอาจสั่งห้ามการส่งออกแร่เหล่านี้ หากการทำสงครามการค้ามีความรุนแรงขึ้น
ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนล้มเหลว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐฯ ได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน
ด้านนายลู่ กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะต้องมีความสมดุลทั้งสองทาง รวมทั้งมีความเท่าเทียมกัน และให้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
สงครามการค้าครั้งนี้ หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่า มันอาจจะลุกลามไปสู่หายนะ ครั้งใหม่ของเศรษฐกิจโลก และถ้าถึงเวลานั้นจริง อาจจะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จะฉกฉวยโอกาสนี้ล้มกระดาน ด้วยการสร้างสงครามอาวุธขึ้นมาแทน

logoline