ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ผู้ที่ดูแลแปลงปลูกใบกระท่อมได้วิ่งหลบหนีขึ้นไปบนภูเขา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบพื้นที่พบมีการปลูกสร้างขนำ จำนวน 2 หลัง เมื่อเข้าไปตรวจค้นด้านในขนำ พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก พบต้นพืชใบกระท่อมอายุประมาณ 1-4 ปี ในพื้นที่ 4 ไร่ จำนวน 516 ต้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.425 ได้ทำการตัดโค่นต้นกระท่อมและใส่ยาฆ่าตอทั้งหมดเพื่อให้ตายทั้งต้น และได้ขนย้ายต้นกระท่อมใส่รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 2 คัน ได้น้ำหนัก 3,310 กิโลกรัม นำส่งที่ สภ.ท้ายเหมือง
การจับกุมในครั้งนี้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.425 ตะกั่วป่า ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีการลักลอบปลูกพืชใบกระท่อมจำนวนมาก และเก็บออกส่งขายให้แก่กลุ่มวัยรุ่นนำไปต้มสี่คูณร้อย และขายให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานในพื้นที่เป็นประจำ โดยปลูกเป็นแปลงริมห้วยมีขนำที่พัก จำนวน 2 หลัง มีอาวุธปืนเพราะมีชาวบ้านได้ยินเสียงยิงปืนเป็นประจำ ซึ่งพื้นที่อยู่ติดกับพื้นที่มีการใช้รถแบ็กโฮปรับพื้นที่ล้มไม้ขนาดใหญ่สามารถมองเห็นได้แต่ไกลในพื้นที่บ้านข้าวเจ้า หมู่ที่ 6 ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.425 จึงได้มีการออกสืบสวนหาข่าว จนทราบแหล่งปลูกพืชใบกระท่อม และได้ร่วมกันวางแผนเพื่อเข้าดำเนินการตรวจยึดจับกุม
ต่อมาขณะนำของกลางส่งสภ.ท้ายเหมือง ได้มีนายสอด คล่องแคล่ว อายุ 52 ปี ชาวหมู่ 3 ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เข้ามาแสดงตัวพร้อมยอมรับว่าเป็นเจ้าของขนำจำนวน 2 หลัง โดยได้ปลูกขนำดังกล่าวอยู่อาศัยมาประมาณ 4 ปีแล้ว ในพื้นที่ส่วนใหญ่จะปลูกต้นมะพร้าว กับต้นทุเรียน ส่วนพืชใบกระท่อมปลูกเป็นบางต้น แต่เมื่อต้นกระท่อมโตขึ้นก็มีเมล็ดพันธุ์แตกกระจายจนเติบโตเต็มที่ ส่วนอาวุธปืนของกลางทั้ง 2 กระบอก มีเพื่อนชื่อนายชัย ไม่ทราบนามสกุลจริง นำมาฝากไว้ประมาณ 6 เดือน ผู้ต้องหาจึงได้เก็บไว้ภายในขนำแต่ไม่เคยนำมาใช้แต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้างแผ้วถางหรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2.ผลิต (ปลูก) และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5(พืชใบกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง ดำเนินคดีต่อไป