นายสุรัตน์ กล่าวว่า ตนได้เอาเจ้าทองคำมาเลี้ยงตั้งแต่ปี 60 โดยนายกอบต.นำมาฝากตนเลี้ยง โดยแต่ละเดือนตนจะได้รับค่าเลี้ยงควาย 200 บาทต่อตัว แต่ด้วยบ้านตนอยู่หน้าเขื่อนเมื่อฝนตกน้ำท่วม ไม่เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ ทางนายก อบต. จึงเอาไปฝากนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ให้ดูแลต่อ เดิมเจ้าทองคำชื่อเก้า แต่ตนดูลักษณะว่าดี จึงเปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าทองคำ ตั้งแต่นั้นมา เขามีอุปนิสัย เชื่องเลี้ยงง่าย เข้ากับคนได้ดี ถูกคุณลักษณะ คือ หน้ากว้าง เขาใหญ่ ตัวสวย เหมาะไปทำพ่อพันธุ์ที่ดี ราคาพ่อพันธุ์ขณะนี้ก็ราวแสนต้นๆ แต่ถ้าขายโรงเชือดก็แค่ 60,000 บาท แต่ควายลักษณะนี้เขาไม่เอาไปเชือด เขาจะนำไปขยายพันธุ์มากว่า
นายสุรัตน์ กล่าวอีกว่า การเคลื่อนย้ายไม่ได้ลำบาก และมาที่นี่ก็มีมุ้ง มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่สบาย อากาศก็คล้ายๆ กัน จึงคิดว่าจะอยู่ได้สบายๆ สำหรับคนในหมู่บ้านไม่มีใครบริจาค แต่มีพูดกันไปเรื่อย ตนนั้นไม่รู้เรื่องคดี อยู่ห่างกันกับนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ไป 10 กิโลเมตร ไม่รู้จริงๆ แต่ก่อนจะมาเห็นเขากอดร้องไห้ ท่าทางรักมาก กว่าจะขึ้นรถได้ก็กอดร้องไห้ และพูดในทำนองห่วงใยกัน
ด้านพ.ต.อ.สิงห์ กล่าวว่า ข้อหาของนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ประกอบด้วย 1.มาตรา 341 ,343 ฉ้อโกงประชาชน มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.มาตรา14 พรบ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน 3.พรบ.ควบคุมการเรี่ยไร ปรับไม่เกิน 200 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ 4.พรบ.การฟอกเงิน ความผิดมูลฐานตาม ม.3(3) ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา จำคุกตั้งแต่1ปี ถึง10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 2แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ