ฝูง "ผึ้ง-ต่อหัวเสือ" ยึดบ้าน -ทนไม่ไหวจ้างพรานขับไล่
อึ้ง ฝูงผึ้ง-ต่อหัวเสือ !! ยึดบ้านคน ทำรังอยู่นานนับปี เจ้าของบ้านทนถูกต่อยไม่ไหว จ้างพรานล่าผึ้ง ทำการขับไล่เป็นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากฝูงผึ้งเข้ามายึดบ้านทำรังอาศัยอยู่มาแรมปี ไม่รู้จะไล่ หรือหนีอย่างไร จนปล่อยมาจนถึงวันนี้ ต้องไปหานายพรานล่าผึ้งมาช่วยจัดการไล่ฝูงผึ้งหนีอออกจากบ้านไป เพราะที่ผ่านมา หากทำให้อะไรให้ไม่พอใจกับฝูงผึ้ง เช่น ผิดกลิ่นหรือไม่พอใจก็จะถูกฝูงผึ้งไล่รุมต่อยเอา
โดยปัจจุบันฝูงผึ้งได้มาเข้ามาทำรังโดยยึดเอาช่องเสาบันไดขึ้นบ้าน บริเวณหน้าบ้าน และได้มุดเข้าตรงฝาไม้เป็นทางเข้าออกเพื่อเข้าไปทำรังใต้ฝ้าเพดานใต้บันไดบ้าน และพบว่ายังได้ยึดเอาตอไม้และโอ่ง เข้าไปทำรังอยู่ จึงให้นายพรานมาทำการตีรังผึ้งขับไล่ออกไปจากพื้นที่บ้านเพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัวให้รอดพ้นจากการถูกฝูงผึ้งรุมต่อย
นายทองคำ ครองทรัพย์ เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ในบ้านของตนเองได้มีฝูงผึ้งและฝูงต่อหัวเสือมักจะเข้ามาทำรังอาศัยอยู่เป็นประจำตลอดทั้งปี และเคยถูกฝูงต่อหัวเสือและผึ้งรุมต่อยมาหลายครั้ง และครั้งนี้มีผึ้งเข้ามายึดทำรังอีกใต้บันไดบ้านและตามตอไม้ เกรงจะเกิดอันตรายอีกจึงได้ให้นายพรานผึ้ง ไล่ฝูงผึ้งให้หนีออกไปจากบ้าน เพราะว่าผึ้งอาศัยอยู่มานานเป็นปีแล้ว
นายล้วน หรือลุงน้อย ผมดำดก อายุ 57 ปี และนายสมคิด วันดี อายุ 38 ปี สองนายพรานล่าผึ้ง กล่าวว่า ได้เป็นพรานล่าผึ้งทุกชนิด ทั้งบนต้นไม้ ในดิน ในป่า หรือตามสถานที่ ต่างๆ หากพบก็จะทำการตีรังเอาน้ำผึ้งและรังมากินและขาย หากมีใครให้ไปช่วยขับไล่ผึ้งตามบ้านเรือนก็จะไปช่วยไล่ฝูงผึ้งให้ เหมือนกับนายทองคำ นี้พบว่าฝูงผึ้งเข้ามาทำรังหลายที่เพราะว่าในบริเวณบ้านมีแต่ต้นไม้ร่มเย็นฝูงผึ้งจึงพากันมาอยู่อาศัย เพราะว่ามีระบบนิเวศน์ที่ดีเหมาะแก่การพักอาศัย
นายล้วน กล่าวอีกว่า ปกติคนอื่นที่หาผึ้งจะต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน ส่วนตนไม่ต้องใช้เนื่องจากชินกับการถูกต่อยแล้วและรู้วิธีไล่ผึ้ง จึงถูกต่อยไม่มากนัก แม้จะถูกต่อยก็ไม่มีอาการเจ็บปวดมากเหมือนคนอื่น เพราะถูกต่อยจนชิน หรืออาจจะมีพิษผึ้งในตัวมาก จนไม่มีอาการเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม ฝากถึงคนที่คิดจะหาน้ำผึ้งด้วยว่า อย่าคิดลอกเลียนแบบ เนื่องจากอาจจะถูกต่อยได้รับบาดเจ็บหรือในบางรายที่แพ้พิษร้ายแรงอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้