ครูทำโทษเด็ก "เบี้ยวนัด" ไกล่เกลี่ยหลังยอมรับว่าตีเด็กจริง

ปทุมธานี - เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นางสุดารัตน์ สุกไม่งอม อายุ 34 ปี อยู่ที่ ตำบลบางคูวัด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ได้เข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันกับ พ.ต.ท.ไพรัตน์ วรรณี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา เนื่องจากลูกชายวัย 5 ขวบ ถูกคุณครูประจำห้องเรียนลงโทษรุนแรง ทั้งตี หยิกแขน ทุบหลัง และหักนิ้วมือ จนเกิดรอยฟกช้ำหลายแห่งจากนั้นครูที่ก่อนเหตุได้นัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 8 มิ.ย.61 ที่สำนักงานนิติบุคคลหมู่บ้านเอื้ออาทรบางคูวัด หมู่7ตำบลบางคูวัด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี แต่กลับเบี้ยวนัด




จากการสอบถาม นางสุดารัตน์ สุกไม่งอม แม่ของเด็กกล่าวว่า จากที่ได้พูดคุยกับคุณครูก้อย เมื่อคืนที่ผ่านมาที่ สภ.เมืองปทุมธานี โดยครูก้อยได้ยอมรับว่าได้ตีเด็กจริง และยอมขอโทษแล้ว โดยยินดีมอบเงินเยี่ยวยาและค่ารักษาจำนวน 10,000 บาท แต่ตนเองกับครอบครัวไม่ยินยอมอย่างไรก็จะเอาเรื่องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งทางคุณครูและเจ้าหน้าที่ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ไม่อยากให้มีเรื่องราวถึงกับขึ้นศาล โดยทางพ่อเด็กบอกว่าหากได้ค่าเยี่ยวยาเด็ก 100,000 บาท ก็จะยุติยอมความ ซึ่งตนเองก้ไม่เห็นด้วยเนื่องจากที่ตนเองเรียกร้องไม่ใช่ว่าอยากได้เงินแต่อย่างใด แต่อยากให้คุณครูสำนึกผิดที่ได้ลงโทษเด็กรุนแรงเกินไป จึงได้มีการนัดเจรจากันใหม่ที่สำนักงานนิติบุคคลหมู่บ้านเอื้ออาทรบางคูวัด แต่คุณครูก้ไม่ได้มาตามที่นัดกันไว้




ด้านนางสาวอัจจิมา ชูช่วย ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านเอื้ออาทรบางคูวัด กล่าวว่า หลังจากได้ทราบว่ามีเด็กถูกลงโทษจากคุณครูที่รุนแรงเกิดกว่าเหตุ ทางนิติบุคคลหมู่บ้านเอื้ออาทรบางคูวัด ได้ประสานทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ เบื้องต้นยังไม่ทราบในรายละเอียดแต่อย่างใดเลย ซึ่งทางนิติบุคคลจะมีการประชุมและติดต่อหัวหน้าศูนย์ฯเพื่อทราบข้อมมูลที่แท้จริง เนื่องจากมีเด็กภายในหมู่บ้านเข้ามาเรียนที่ศูนย์แห่งนี้จำนวนมาก จึงต้องสร้างความมั่นใจกับผู้ปกครองท่านอื่นว่าลูกของเราจะไม่โดนแบบนี้

นางรุ่งทิงวา สุดแดน หัวหน้าสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี ได้มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดปทุมธานี และ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบางคูวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการช่วยเหลือ ที่เทศบาลเมืองบางคูวัด ปรากฏว่าพบมารดาเด็ก อายุ 33 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพ อาศัยอยู่กับสามี อายุ 28 ปี 



ประกอบอาชีพเป็นพนักงานโรงงาน มีรายได้ 20,000 บาท ต่อเดือน มีบุตรทั้งหมด 5 คน อายุ 19 ปี 16 ปี 12 ปี 5 ปี และ1ปี บุตรคนที่ 1 3 เป็นบุตรของสามีคนแรก มารดาได้แจ้งว่าบุตรที่ถูกกระทำคือบุตรคนที่ 4 ชื่อด.ช.บี นามสมมติ อายุ 5 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบางคูวัด และกำลังจะย้ายไปโรงเรียนแห่งใหม่ 




โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 พ.ค.61 เด็กถูกครูก้อย ใช้ไม้ตีที่ต้นแขนขวาและแขนซ้าย เป็นรอยช้ำ และถูกครูหมิว หักนิ้วกลางขวา แต่นิ้วไม่หัก เนื่องจากเด็กเอารถของเล่นมาเล่น จึงถูกทำโทษ มารดาเด็ก ได้พาเด็กไปตรวจร่างกายที่ รพ.ปทุมธานี ใบรับรองแพทย์ระบุว่า พบรอยซ้ำ บริเวณต้นแขนขวาและต้นแขนซ้าย ต่อมามารดาเด็กได้ดำเนินการแจ้งความ ที่สภ.เมืองปทุมธานี โดย พ.ต.ท.ไพรรัตน์ วรรณี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี รับแจ้งไปแล้ว ให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยเจรจากัน แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ โดยครอบครัวของเด็ก เสนอว่าหากจะให้ยุติเรื่อง ให้ฝ่ายครูใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 100,000 บาท หากไม่ใช้ค่าสินไหม ก็ให้ดำเนินต่อไป



ส่วนการดำเนินการช่วยเหลือ ได้ให้คำปรึกษาและแนะนำการดำเนินชีวิต การเลี้ยงดูเด็กตามพรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และการลงทะเบียนโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ทั้งนี้ หากครอบครัวต้องการคำปรึกษาและขอความช่วยเหลือ ให้ติดต่อมายัง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี 


พร้อมแนะนำให้มารดาเด็กนำเด็กไปประเมินสภาพจิตใจ และประสานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 เกี่ยวกับการย้ายโรงเรียนของเด็ก ตามความประสงค์ของมารดา ส่วนทางเทศบาลเมืองบางคูวัด จะตั้งคณะกรรรมสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว.