svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

รองโฆษกอัยการ ชี้ ป.ป.ช.มีอำนาจมอบสำนวนให้ ปปป.ดูคดีหวย 30 ล้าน

07 มิถุนายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รองโฆษกอัยการ แจงคดีกล่าวหา อดีตผู้การเมืองกาญจน์ แก้สำนวนหวย เจตนาเดียวครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น แจ้งความเท็จ-สนับสนุน ม.157 สุดท้ายต้องพ่วงสำนวน สรุปส่งอัยการ

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.61 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ใช้อำนาจตามมาตรา 89/2 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ให้ส่งสำนวนคดีกล่าวหา พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำให้การในสำนวนคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ให้กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินสรุปสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หลังจากเห็นว่าพนักงานสอบสวนรวบรวมเอกสารจำนวนมากไว้แล้วจึงให้ทำสำนวนต่อไปนั้น


นายประยุทธ กล่าวว่า เมื่อ ป.ป.ช. คืนสำนวนคดี พล.ต.ต.สุทธิ ให้ ปปป. แล้ว ในส่วนของสำนวนที่ "นายปรีชา หรือ ครูปรีชา ใคร่ครวญ" อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี และ "นางรัตนา หรือเจ๊บ้าบิ่น สุภาทิพย์" อายุ 58 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ในตลาดเรดซิตี้ ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในฐานะร่วมสนับสนุน พล.ต.ต.สุทธิ เป็นเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วยนั้น ก็ต้องส่งให้ ปปป.ด้วย


ส่วนคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาในความผิดอาญา 3 ข้อหา ฐานร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย , ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายและรู้ว่ามิได้กระทำผิดเกิดขึ้น , ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด โดยเป็นการแจ้งเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษ ซึ่งอัยการเคยมีความเห็นให้ตำรวจกองปราบปรามส่งสำนวนความผิดอาญา 3 ข้อหา ให้ ป.ป.ช. พิจารณาร่วมด้วยกับข้อกล่าวหาสนับสนุนเจ้าพนักงานทำผิด ม.157 นั้น ก็ต้องส่งกลับให้ตำรวจกองปราบปราม ที่เป็นพนักงานสอบสวนตั้งแต่เริ่มต้นดำเนินการต่อไป


แต่ที่ผ่านมาครั้งแรก เมื่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม สรุปสำนวนครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่นแจ้งความเท็จคดีหวยส่งมาให้ อัยการคดีอาญาก็เห็นว่าสำนวนกล่าวหาครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น แจ้งความเท็จและข้อกล่าวหา พล.ต.ต.สุทธิ แก้สำนวนคดีหวย 30 ล้าน กับข้อกล่าวหาครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น สนับสนุนทำผิด ม.157 นั้นล้วนมีเจตนาเดียวกัน คือประสงค์เอาเงินลอตเตอรี่ จึงถือว่าเป็นเรื่องเดียวกันและต้องรวมสำนวนพิจารณาเข้าด้วยกัน ดังนั้นเมื่อ ป.ป.ช. มีมติว่าคดีนี้พนักงานสอบสวนทำไปเยอะแล้ว จึงอาศัยอำนาจ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ตามมาตรา 89/2 ให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ทำสำนวนต่อไป พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม และ ปปป. ก็ต้องร่วมพิจารณาข้อกฎหมายกันภายในว่าหน่วยใดจะรับเป็นเจ้าภาพทำสำนวน ที่มีพฤติการณ์เจตนาเดียวกัน จากสำนวนทั้งหมดนั้น


ซึ่งในส่วนของคดีที่เกี่ยวข้องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หากพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนตามขั้นตอนส่งให้อัยการ ก็จะเข้าสู่อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 7 พิจารณาสั่งคดี เนื่องจากเหตุข้อกล่าวหานั้นเกิดที่ จ.กาญจนบุรี และหากสั่งฟ้องก็ต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ต่อไป


นายประยุทธ รองโฆษกอัยการฯ อธิบายย้ำว่า การมีมติของ ป.ป.ช. เช่นนี้ ไม่ใช่การตีกลับสำนวน แต่เป็นการอาศัยอำนาจ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ม.89/2 บัญญัติว่า กรณีที่ ป.ป.ช. พิจารณาเห็นสมควร อาจส่งเรื่องที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ากระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนดำเนินการทางวินัยหรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้วแต่กรณี หรือส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไปก็ได้ ก็คือ ป.ป.ช.เห็นว่าเป็นข้อกล่าวหาเกี่ยวกับหน้าที่ราชการ แต่มอบหมายให้พนักงานสอบสวนอื่นที่มีอำนาจช่วยดำเนินการตามขั้นตอน.

logoline