โอไบโอมา อ้างว่า เธอกับลูกขึ้นไปบนเครื่องบินที่สนามบิน บุช อินเตอร์คอนติเนนทัล มุ่งหน้าไปต่อเครื่องที่ซานฟรานซิสโก ปรากฎว่ามีผู้โดยสารชายผิวขาวคนหนึ่ง มาจับจองที่นั่งของเธออยู่ก่อนแล้วบนชั้นบิสเนส
เมื่อขอให้ย้าย อีกฝ่ายปฏิเสธ ลูกเรือพยายามเข้ามาช่วยเจรจา แต่ผู้โดยสารชายรายนั้นก็ยังไม่ยอม คุณแม่ไนจีเรียจึงยอมสลับที่นั่งที่อยู่ใกล้กัน
ก่อนเครื่องบินทะยานขึ้น เธอไปเข้าห้องน้ำแต่พอจะกลับไปประจำที่นั่งของตัวเอง ผู้โดยสารชายคนเดียวกันพยายามขัดขวางไม่ยอมให้เธอกลับไปนั่งอยู่หลายนาที ทั้งสองมีปากเสียงกันจนลุกลามไปถึงขั้นที่ลูกเรือที่ระบุชื่อในคำฟ้องว่า รัสเซล เอช. สั่งให้เธอลงจากเครื่องบิน เธอไม่ยอมในตอนแรก กระทั่งมีพนักงานอีกคนมาแจ้งกับเธอว่า นักบินขอให้เธอลงจากเที่ยวบินนี้ เนื่องจากผู้โดยสารชายที่นั่งใกล้กับเธอร้องเรียนว่ากลิ่นตัวเธอแรง
นางโอไบโอมา ตกใจมากและให้เหตุผลว่า ลูกๆของเธอขึ้นเครื่องบินมาแล้ว พนักงานก็เลยจัดการให้เด็กๆลงจากเครื่องด้วย
เธอกับลูกนั่งเที่ยวบินเดินทางต่อ โดยต้องเสียเวลาไปถึง 5 ชั่วโมง
คุณแม่ชาวไนจีเรียอ้างว่า เธอถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุผลเชื้อชาติ และเรียกร้องค่าเสียหายพร้อมกับค่าดำเนินการทางกฎหมายทั้งหมด
โฆษกสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ บอกฮูสตัน โครนิเคิล ว่ายังไม่ได้รับคำฟ้อง และเนื่องจากเป็นประเด็นทางกฎหมาย ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จึงไม่สามารถแสดงความเห็นเพิ่มเติมได้