สั่งระงับเตาเผาซากสัตว์ ชาวบ้านร้องกลิ่นเหม็น

สืบเนื่องจากกรณีที่นายสัตวแพทย์บุญชิต ศรีอร่าม อดีตเจ้าของโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ต ได้มีการจัดตั้งสถานประกอบการชื่อ เตาเผาสัตว์เลี้ยงแสนรัก โดย น.สพ.บุญชิต (ภูเก็ต) เพื่อเป็นสถานที่รับเผาซากสัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆ ขึ้นในภายในวัดโสภณวนาราม หรือวัดป่าคลอก ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2560

โดยการขอเช่าพื้นที่ส่วนหนึ่งของวัดดังกล่าวในการดำเนินการจัดทำเป็นโรงเรือนโล่ง ภายในโรงเรือนมีการติดตั้งเตาเผาขนาดเล็กและส่วนประกอบ เช่น ห้องเก็บอุปกรณ์ ลานประกอบพิธี เป็นต้น แต่ปรากฏว่าหลังจากเปิดให้บริการมาได้ประมาณ 2 เดือนเศษ ได้ถูกชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่บริเวณรอบวัดร้องเรียนไปยังเทศบาลตำบลป่าคลอกขอให้นายสัตวแพทย์บุญชิตฯ หยุดการเผาซากสัตว์เลี้ยงภายในวัดดังกล่าว เนื่องจากส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน เนื่องจากกลิ่นเหม็นจากการเผาดังกล่าวจึงทำให้นายสัตวแพทย์บุญชิตฯ ต้องหยุดกิจการชั่วคราว และร้องขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานของรัฐต่างๆ เพื่อขอเปิดดำเนินการ



 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ทางเทศบาลตำบลป่าคลอก นำโดยนายเรวัติ สมบัติทอง ปลัดเทศบาลฯ พร้อมด้วยรองนายกเทศบาลตำบลป่าตอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังบริเวณที่ตั้งเตาเผาสัตว์เลี้ยงแสนรักฯ ภายในวัดโสภณวนาราม เพื่อพูดคุยกับนายสัตวแพทย์บุญชิต ศรีอร่าม หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่าจะมีการนำซากสัตว์เลี้ยงมาเผา เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจหลังจากก่อนหน้านี้ทางอำเภอถลางได้มีการเรียกประชุมส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนายสัตวแพทย์บุญชิตฯ และผู้แทนชาวบ้านไปประชุมแนวเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันทางเทศบาลฯ ได้มีหนังสือให้นายแพทย์บุญชิตฯ ส่งเอกสารเพิ่มเติมและให้ระงับกิจการเตาเผาไว้ก่อน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางนายสัตวแพทย์บุญชิตฯ ได้ยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการรับทำการกำจัดมูลฝอย ชื่อ เตาเผาสัตว์เลี้ยงแสนรักฯ แต่ยังไม่ได้อนุญาต เนื่องจากอยู่ระหว่างร้องเรียนฯ

สำหรับการประกอบกิจการดังกล่าวมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการประกอบพิจารณาชั้นต้น จำนวน 6 ฉบับอาทิ กฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะการจัดการมูลฝอยทั่วไป พ.ศ.2560, พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 , มติมหาเถรสมาคมครั้งที่ 14/2521 เกี่ยวกับการให้เช่าที่วัดหรือที่ธรณีสงฆ์ เพื่อสร้างอาคารพาณิชย์, ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ให้เตาเผามูลฝอยเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียสู่บรรยากาศ เป็นต้น โดยขอให้ดำเนินการจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมที่จะต้องใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตประการเผา ได้แก่ เอกสารแสดงถึงกระบวนการที่ทางวัดโสภณวนารามได้ดำเนินการขอความเห็นชอบตามลำดับ ตามมติเถรสมาคมครั้งที่ 14/2521 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2521 ทุกอย่าง และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องในการขออนุญาตและอนุญาตจากหน่วยงานที่กำกับดูแลวัดโสภณวนาราม และให้นำมายื่นภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ

นายเรวัติ กล่าวว่า การเปิดให้บริการได้นั้นจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย และระหว่างนี้ต้องยุติการเผาไปก่อนจนกว่าทุกอย่างจะดำเนินการอย่างถูกต้อง หากผู้ประกอบการไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของเทศบาลฯ ก็สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อเทศบาลฯ ได้ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครอง และในส่วนของเทศบาลฯ ก็ต้องรชี้แจงให้กับชาวบ้านทราบเช่นกันว่า ได้ดำเนินการอย่างไรบ้างกับกรณีที่เกิดขึ้น



ขณะที่นายอุรชาติ ห้าวหาญ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลป่าคลอก กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ว่า ที่ผ่านมาตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนี้มาโดยตลอดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหากลิ่นเหม็น และได้เป็นตัวแทนในการพูดคุยกับคุณหมอมาหลายรอบ เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งก็รับปากแต่ปรากฏว่าไม่มีการแก้ไขแต่อย่างใด นอกจากนี้อยากจะชี้แจงด้วยว่าตนไม่ใช่แกนนำ แต่ทำในฐานะสมาชิกสภาฯซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน เมื่อเขาเดือดร้อนขอให้ช่วยก็จะต้องเข้ามาดูแลและประสานเพื่อหาทางออก สิ่งสำคัญ คือ ทำอย่างไรไม่ให้มีกลิ่นเหม็น และจะต้องมีการดำเนินการต่างๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะในเรื่องกฎหมายสิ่งแวดล้อม เพราะขณะนี้ชาวบ้านเองก็จับตามองอยู่

ด้านนายสัตวแพทย์บุญชิต ศรีอร่าม ผู้ประกอบกิจการ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพยายามจะแก้ไขแล้ว แต่เนื่องจากเรื่องเตาเผาซากสัตว์เป็นเรื่องใหม่ และมีการประกอบกิจการประเภทนี้ค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะการหาวิศวกรมารับรอง แต่ในเรื่องของพื้นที่ได้ขอเช่าพื้นที่จากทางวัดแล้วเดือนละ 3,000 บาท จึงมาก่อสร้างโรงเรือน โดยเตาเผาใช้เชื้อเพลิงเป็นแก๊ส หลังจากเปิดให้บริการมาประมาณ 2 เดือนเศษ ก็ต้องหยุดไปเนื่องจากมีชาวบ้านร้องเรียน และพยายามพูดคุยทำความเข้าใจกันแต่ไม่เป็นผล ยืนยันว่าพร้อมที่จะแก้ไขให้ถูกต้อง


เหตุที่เปิดรับเผาซากสัตว์ เนื่องจากเคยเปิดโรงพยาบาลสัตว์มาก่อน และพบว่าการหาสถานที่ในการเผาซากสัตว์นั้นค่อนข้างลำบาก จึงมองว่าเมื่อมีโรงพยาบาลรักษาสัตว์แล้วก็น่าจะมีสถานที่ในการเผาด้วย ประกอบกับเคยเห็นการดำเนินกิจการประเภทนี้ที่กรุงเทพมหานคร ดังนั้นเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและบรรเทาทุกข์ให้คนรักสัตว์ จึงมีแนวคิดในการประกอบกิจการนี้ขึ้น โดยในการรับจ้างก็มีค่าบริการเริ่มต้นที่ 2,000 บาท ต่อสัตว์ 1 ตัว ทั้งนี้ขึ้นกับขนาดของสัตว์ หากเป็นสัตว์ขนาดใหญ่จะคิดราคาเพิ่มตามสัดส่วน จากที่เปิดให้บริการมาระยะหนึ่งมีคนรักสัตว์มาใช้บริการจำนวนมาก และขณะนี้มีซากสัตว์จำนวนหนึ่งที่รอการเผา จากนี้จะเร่งจัดทำรายละเอียดตามที่เทศบาลฯ แจ้งมา และทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ด้วย นายสัตวแพทย์บุญชิต กล่าว

ขณะที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งซึ่งมาติดตามความคืบหน้าในเรื่องที่เกิดขึ้นบอกว่า เหตุที่ต้องขอให้ยุติการเผานั้น เนื่องจากมีกลิ่นเหม็นมาก เนื่องจากท่อควันอยู่ต่ำ เพราะขนาดเมรุเผาศพคนซึ่งท่อควันสูงแล้วเมื่อลมพัดลงต่ำก็ยังมีกลิ่น และบริเวณรอบวัดมีทั้งบ้านเรือนทั่วไปและโครงการบ้านจัดสรร จึงอยากเรียกร้องให้แก้ปัญหา และขอให้มีการจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความเห็นจากชาวบ้านด้วย เพราะเดือดร้อนจริงๆ และที่ผ่านมาทางคุณหมอได้มีการประชุมร่วมกันและรับปากว่าจะแก้ไขแต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ