
จากกรณี พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ ตั้งมหากิจศิริ เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ธงธน มากจันทร์ และน.ส. รภากัญ มากจันทร์ ในความผิดฐานเรื่องกันฉ้อโกง , ขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อ ในแหล่งกำเนิดสภาพ คุณภาพ หรือปริมาณแห่งของนั้น อันเป็นเท็จ โดยมีมูลค่าความเสียหายคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 5,169,750 บาท เหตุเกิดที่ค่ายสุรสีห์ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี , อ.บางใหญ่ จ. นนทบุรี และ เขตบางแค กทม. เมื่อประมาณกลางเดือน ธันวาคม 2560 ถึงต้นเดือนเมษายน 2561 ต่อเนื่องกัน ต่างกรรมต่างวาระ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ เดือนธันวาคม 2560 พ.ต.ธงธน ฯ ซึ่งเปิดร้านตัดเครื่องแบบได้มาเสนอให้ พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ฯ ช่วยเหลือในการติดต่อหาลูกค้าที่เป็นตำรวจมาตัดชุดเครื่องแบบกับทางร้าน ซึ่งต่อมา พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ฯ จึงได้ประชาสัมพันธ์และชวนเพื่อนตำรวจกว่า 6,000 คน ให้มาตัดชุด พร้อมโอนเงินค่ามัดจำ ชุดละ 1,500 บาท ไปให้กับ พ.ต. ธงธนฯ เป็นการล่วงหน้า แต่เมื่อถึงกำหนดส่งชุด ตั้งแต่เดือนมกราคม -มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ทางร้านกลับส่งให้เพียง 500 ชุด และบางชุดก็ไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งคุณภาพของเนื้อผ้า ก็ไม่เป็นตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อทวงถามกปลับไป ก็ไม่ได้รับคำชี้แจงและไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้มาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ซึ่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพื่อรับคำร้องทุกข์ พร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนปากคำผู้กล่าวหาเอาไว้แล้ว ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในขั้นตอนต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับสถาบัน หรือองค์กร เป็นกรณีที่ผู้เสียหายเห็นว่า ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว คดีนี้ต้องให้พนักงานสอบสวน สอบสวนปากคำพยาน และรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอก่อน จากนั้นก็จะดำเนินการในทางคดีต่อไป ซึ่งจะพิจารณาจากพยานหลักฐานเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้กำชับให้การดำเนินการทุกคดี เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ยุติธรรม โปร่งใส ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทำความจริงให้ปรากฎ สามารถตอบคำถามกับสังคมได้