โรงงาน Boeing ถูกมัลแวร์ WannaCry โจมตี

ขณะที่มีข่าวแพร่สะพัดประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพิจารณาใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาด เพื่อควบคุม Anazon บริษัทค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่รวมทั้งพิจารณาใช้มาตรการด้านภาษีต่อ Amazon ด้วย 

กระทบราคาหุ้น Amazon ร่วงลง 6.7% ส่งผลให้มูลค่าทางตลาดลดลง 53,000 ล้านดอลลาร์ และนับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดในแดนลบเมื่อวันพุธ


1.  Seattle Times รายงานฝันร้ายของโรงงาน Boeing มีที่ตั้งในเมือง Charleston รัฐ South Carolina ได้ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ชื่อว่า WannaCry เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากที่หัวหน้าวิศวกรของการผลิตเครื่องบินพาณิชย์ของ Boeing ได้ส่งหนังสือด่วนเป็นการภายใน เพื่อให้พนักงานรับรู้และตื่นตัว

โดยหนังสือด่วนฉบับดังกล่าวระบุว่า มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสในโรงงาน Boeing แห่งนี้ ส่งผลให้เครื่องมือที่ใช้ผลิตเครื่องบิน Boeing 777 ต้องยุติลง รวมทั้งะกังวลว่าไวรัสอาจจะมีผลกระทบกับเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบการปฏิบัติการของเครื่อบินที่พร้อมส่งให้ลูกค้า โดยสุ่มเสี่ยงที่จะแพร่กระจายไปยังซอฟต์แวร์ของเครื่องบิน

แต่ต่อมาในบ่ายวันเดียวกัน ก็มีแถลงการณ์ระบุว่า หน่วยงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของ Boeing ได้ตรวจพบการบุกรุกของมัลแวร์ในวงจำกัด และอาจมีผลกับระบบเพียงเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้ได้รับการแก้ไขและจะไม่มีปัญหากับการผลิตหรือการส่งมอบเครื่องบิน


2.  ทั้งนี้ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ WannaCry นี้ใช้ช่องโหว่ในระบบวินโดวส์ เพื่อเข้าสู่คอมพิวเตอร์ของเหยื่อ และจะทำการเข้ารหัสไฟล์เพื่อเรียกค่าไถ่ ไวรัสนี้แพร่ระบาดอย่างมากในช่วงเดือนพฤษภาคม 2017 และแม้ว่า Microsoft จะออกอัพเดตฉุกเฉินในโปรแกรม Windows เพื่ออุดช่องโหว่จากการถูกโจมตีของ WannaCry โดยเฉพาะแล้วก็ตาม 

การแพร่ระบาดโจมตีคอมพิวเตอร์โดยโปรแกรมเรียกค่าไถ่ (Ransomware) เกิดขึ้นครั้งใหญ่ใน 99 ประเทศทั่วโลก มากกว่า 200,000 ครั้ง โดยเรียกค่าไถ่ที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเงิน 300 ดอลลาร์ ซึ่งต้องชำระด้วย Bitcoin 

สำหรับประเทศหลักๆ ที่ถูกโจมตีโดย WannCry ประกอบด้วย อังกฤษ สหรัฐ จีน รัสเซีย สเปน อิตาลี ไต้หวัน สวีเดน และเดนมาร์ก


3.   ท่ามกลางภาพประวัติศาสตร์ในการที่คิม จองอึน เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ในฐานะแขกของรัฐบาลจ้น พร้อมจับมือกระชับสัมพันธ์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เนื่องจากเป้นการเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นั่งในตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือ

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตได้รับทราบเรื่องที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พบปะกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ด้วยความรู้สึกยินดีที่จีนระบุว่าเกาหลีเหนือเต็มใจที่จะหารือเรื่องโครงการนิวเคลียร์กับสหรัฐ พร้อมกับระบุอีกว่า คิม จองอึน อาจจะทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับประชาชนของประเทศและมนุษยธรรม รวมถึงการยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์ แต่มาตรการคว่ำบาตรและการสร้างแรงกดดันในระดับสูงสุดก็ยังต้องดำเนินการต่อไป 


4.  ข่าวแพร่สะพัดประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพิจารณาใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาด เพื่อควบคุม Anazon บริษัทค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่รวมทั้งพิจารณาใช้มาตรการด้านภาษีต่อ Amazon ด้วย โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น Amazon ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธ 

อย่างไรก็ตาม  โฆษกทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธรายงานดังกล่าว ว่ายังไม่ได้พิจารณามาตรการใดๆ ต่อ Amazon เนื่องจากทำเนียบขาวยังไม่ได้มีการประกาศหรือออกนโยบายที่เฉพาะเจาะจงในเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เคยทวิตข้อความแสดงความต้องการปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บภาษีภาษีการค้าที่เรียกเก็บจากสินค้าที่ซื้อจากผู้ค้าบุคคลที่สามบนเว็บไซต์ของ Amazon 


5.   หุ้น Amazon ร่วงลง 6.7% ส่งผลให้มูลค่าทางตลาดลดลง 53,000 ล้านดอลลาร์ และนับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดในแดนลบเมื่อวันพุธ

โดยที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดในวันพุธที่ 23,848 ลดลง 9.29 จุด หรือ 0.04% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,605 ลดลง 0.29% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,949 ลดลง 0.85%