ชุมชนในแถบชายฝั่งรัฐนิวอิงแลนด์ เผชิญน้ำท่วมหนักติดต่อกันสองวันแล้ว หลังจากพายุที่มีความรุนแรง ทำให้ต้นไม้กับเสาไฟฟ้าหักโค่น และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9คน ผู้ว่าการรัฐแมสซาจูเสทส์และผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ประกาศภาวะฉุกเฉิน เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ ตามหลังรัฐเวอร์จิเนียกับแมรี่แลนด์ ที่ประกาศไปเมื่อวันศุกร์ ประชาชนมากกว่า 1.5 ล้านคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และการที่เกิดน้ำท่วมและลมกระโชกแรง ได้เป็นอุปสรรคต่อความพยายามแก้ปัญหาไฟฟ้าดับ
การประกาศภาวะฉุกเฉินจะช่วยให้รัฐเหล่านี้ ได้เข้าถึงทรัพยากรของรัฐบาลกลาง ซึ่งลมพายุที่รุนแรงพอๆกับเฮอร์ริเคน เนื่องจากพัดด้วยความเร็วลม 145 ก.ม./ช.ม. ส่งผลให้น้ำทะเลหนุนและไหลทะลักเข้าสู่ถนนหลายสายในเมืองบอสตันและเมืองชายฝั่งอีกหลายแห่ง
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ หรือ NWS ระบุว่า ในขณะที่พายุอ่อนกำลังลง รวมถึงฝนและหิมะก็บรรเทาเบาบางลง แต่น้ำท่วมและคลื่นสูงยังคงส่งผลกระทบชายฝั่ง ตั้งแต่รัฐเมน, รัฐแมสซาจูเสทส์, รัฐโร้ด ไอส์แลนด์, รัฐลอง ไอส์แลนด์และรัฐนิวยอร์ก