svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

นักลงทุนจับตามองสหรัฐเผยนโยบาย Nuclear Posture Review บอนด์ยีลด์สหรัฐ ยังคงพุ่งขึ้นทะลุ 2.86%

05 กุมภาพันธ์ 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นักลงทุนจับตามองสหรัฐเผยนโยบาย Nuclear Posture Review (NPR) ฉบับใหม่ เล็งใช้นิวเคลียร์ที่จะเพิ่มอานุภาพในการป้องกันการถูกโจมตีด้วยอาวุธทั้งจากขีปนาวุธนิวเคลียร์และที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ และเพื่อรับมือกับประเทศที่มีการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ เช่น รัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ

เพนตากอนสหรัฐได้ชี้ถึงรายงาน NPR ที่สะท้อนว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ปฏิเสธที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการตอบโต้การโจมตีทุกรูปแบบ ซึ่งในรายงานยังแนะนำถึงแนวทางพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ที่มีขนาดเล็กต่ำกว่า 20 กิโลตัน แต่มีอานุภาพทำลายล้างใยระดับเดียวกับระเบิดปรมาณูที่โจมตีฮิโรชิม่าและนางาซากิของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ขณะที่บอนด์ยีลด์รัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปียังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่องทะลุ 2.86% สร้างแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเพิ่มความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจจะรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้ จนกดดันให้เกิดการเทขายหุ้นในวอลล์สตรีทอย่างหนักเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลดาวโจนส์ดิ่งลงถึง 666 จุด ถือเป็นการปรับฐานรุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2013


1. กระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเพนตากอน ได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการทบทวนบทบาทนิวเคลียร์ หรือ Nuclear Posture Review (NPR) ฉบับใหม่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หวังใช้เป็นแนวทางตามนโยบายพัฒนานิวเคลียร์ในอนาคต ที่มีการระบุถึงการพัฒนาด้านแสนยานุภาพนิวเคลียร์ของสหรัฐยังคงมีความคล่องตัว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างความเชื่อมั่น

และเพื่อรับมือกับการคุกคามที่ไม่ว่าจะเป็นการคุกคามด้วยการใช้อาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็ตาม จะไม่สามารถโจมตีสหรัฐและบรรดาพันธมิตรได้ โดยเฉพาะการตั้งตัวเป็นศัตรูกับสหรัฐและพันธมิตร อาจเสี่ยงที่จะเผชิญกับผลลัพธ์ที่ตามมาทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ทั้งนี้ แผนการปรับปรุงยุทธศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยของสหรัฐฉบับนี้ จะมีการดำเนินการกับอาวุธนิวเคลียร์ทั้ง 3 ส่วน คือส่วนที่ติดตั้งบนฐานภาคพื้นดิน ส่วนที่ติดตั้งในเรือดำน้ำ และส่วนที่ใช้ในการโจมตีทางอากาศ เพื่อให้มีความคล่องตัวในการปรับใช้งานป้องปรามภัยนิวเคลียร์ได้เฉพาะเจาะจุดที่มากขึ้น


2. รายงาน NPR 2018 ยังระบุว่า สหรัฐจะพัฒนาหัวรบขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวนไม่มาก มาใช้เป็นทางเลือกของภารกิจในอนาคต ซึ่งจะมีการใช้ขีปนาวุธประเภทร่อนที่มีการติดอาวุธนิวเคลียร์ที่มีความทันสมัย โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มอานุภาพในการป้องกัน และรับมือกับประเทศที่มีการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ เช่น รัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ

รายงาน NPR ยังสะท้อนว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ปฏิเสธที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการตอบโต้การโจมตีทุกรูปแบบ พร้อมกล่าวแนะนำว่า ควรพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ที่มีขนาดเล็กต่ำกว่า 20 กิโลตัน แต่มีอานุภาพทำลายล้างใยระดับเดียวกับระเบิดปรมาณูที่โจมตีฮิโรชิม่าและนางาซากิของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2


3. อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิจารณ์และตอบโต้ถึงแผนการขยายอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐนี้ขัดต่อข้อตกลงในสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ที่อาจทำให้เส้นแบ่งระหว่างการใช้อาวุธนิวเคลียร์และอาวุธที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ไม่ชัดเจน และอาจเป็นที่มาของการเกิดสงครามนิวเคลียร์ได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ประณามข้อเสนอของกองทัพสหรัฐที่ให้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กไว้ป้องปรามการโจมตีนั้น มีลักษณะเผชิญหน้าและต่อต้านรัสเซียอย่างเห็นได้ชัด

พร้อมกับชี้ว่า สหรัฐกำลังกระทำตนเป็นผู้เรียกร้องต้องการสงคราม แต่รัสเซียจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อความมั่นคงของชาติ โดยเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่ารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งต่อนโยบายด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐ และถือว่าเป็นการเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย


4. ขณะที่อัตราผลตอบแทน (บอนด์ยีลด์) ของบอนด์รัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปียังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่องทะลุ 2.86% สร้างแรงกระตุ้นให้นักลงทุนตื่นกลัวต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้ จนกดดันให้เกิดการเทขายหุ้นในวอลล์สตรีทอย่างหนักเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลดาวโจนส์ดิ่งลงถึง 666 จุด ถือเป็นการปรับฐานรุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2013

สำหรับดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 25,520 ดิ่งลง 665.75 จุด หรือ 2.54% ขณะที่ Nasdaq ปิดที่ 7,240 ร่วงลง 144.92 จุด หรือ 1.96% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,762 ร่วงลง 59.85 จุด หรือ 2.12%

นอกจากนี้ การเทขายหุ้นวอลล์สตรีทอย่างถล่มทลายของนักลงทุน ยังเกิดขึ้นจากเหตุผลหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนมกราคมมีความแข็งแกร่งเกินคาด โดยเฉพาะตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญถึงสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อ ทำให้เป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้


5. เจเน็ต เยลเลน กลายเป็นอดีตประธานเฟด ซึ่งเพิ่งจะก้าวลงจากตำแหน่ง โดยได้ส่งมอบตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ให้กับเจอโรม พาวเวล เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ได้กล่าวในรายการ Sunday Morning ของสถานีโทรทัศน์ CBS ว่า ราคาหุ้นและราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ของสหรัฐ แม้จะอยู่ในระดับที่สูง แต่ก็ไม่ถือว่าสูงจนเกินไป และเชื่อว่ายังไม่ได้อยู่ในภาวะฟองสบู่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาดการเงินมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการประเมินสินทรัพย์ที่อยู่ในระดับสูงเกินไป แต่ระบบการเงินและการธนาคารของสหรัฐอยู่ในสถานะที่ดีขึ้น และมีความยืดหยุ่นมากกว่าในช่วงที่เกิดวิกฤติการเงินเมื่อ 10 ปีก่อน

อดีตประธานเฟดยังได้แสดงความเห็นในรายการ PBS NewsHour ต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการขยายตัวแข็งแกร่ง จากค่าแรงปรับตัวสูงขึ้น และตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว เป็นการบ่งชี้ถึงเฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ก่อนแล้ว

ทั้งนี้ เจเน็ต เยลเลน จะเข้ารับตำแหน่งนักวิชาการกิตติมศักดิ์ของศูนย์ฮัทชินส์ฝ่ายนโยบายการเงินและการคลังของสถาบันบรูคกิ้งส์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หลังสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟด ถือเป็นการเดินตามรอยอดีตเจ้าหน้าที่เฟดหลายคน เช่น เบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟด รวมทั้งโดนัลด์ โคห์น และอลัน บลินเดอร์ ซึ่งเป็นอดีตรองประธานเฟด

logoline