รายงาน : ราชภัฏเรือนไทย... ผิดกฎหมายหรือไร้มลทิน?

การก่อสร้างเรือนไทย เป็นงบที่เรียกว่า การปรับปรุงสภาพและพัฒนาพื้นที่ของมหาวิทยาลัย จำนวน 30 กว่าล้านบาท โดยเรามองว่า นอกจากตัวอาคารและอุปกรณ์ต่างๆที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว ภูมิทัศน์ต่างๆที่อยู่ในพื้นที่ส่วนกลางของมหาวิทยาลัยก็ควรจะต้องมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ด้วย

หากถามว่าการก่อสร้างเรือนไทยกลางน้ำหลังนี้ เป็นการโยกงบประมาณหรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการโยกงบประมาณมาใช้ผิดวัตถุประสงค์แต่อย่างใด เพราะเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ภายใต้งบประมาณการปรับปรุงสภาพและพัฒนาพื้นที่ของมหาวิทยาลัย

แน่นอนว่ามีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้งบประมาณที่ไม่ถูกวัตถุประสงค์ เนื่องจากว่างบการพัฒนาพื้้นที่นั้น จะต้องไม่มีการสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ฝ่ายบริหารมองว่า หากเราต้องการพัฒนาพื้นที่ ก็ควรที่จะมีอาคาร สวนหย่อม เป็นส่วนประกอบด้วย จึงมีการเห็นชอบให้สร้างเรือนไทยนี้ขึ้นมา โดยหลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้น หลายคนก็มองเห็นว่า เรือนไทยหลังนี้มีประโยชน์ต่อการใช้สอย ทั้งการจัดกิจกรรมให้กับนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะด้านศิลปวัฒนธรรม เช่น งานลอยกระทงของมหาวิทยาลัยถือว่าได้รับความนิยมและมีประชาชนเข้ามาร่วมงานในพื้นที่ตั้งของเรือนไทยอย่างมาก รวมถึงการให้คนนอกมาขอเช่าสถานที่ด้วย ซึ่งทางผู้บริหารมองว่า เมื่อการก่อสร้างเรือนไทยขึ้นมาแล้ว มีประโยชน์กับมหาวิทยาลัยมีมากมายมหาศาล และเป็นสิ่งที่ประชาชนนึกถึงอยู่เสมอ
ด้านอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ซึ่งเป็นผู้อนุมัติให้มีการก่อสร้างเรือนไทยกลางน้ำ มองว่า นอกจากประโยชน์ทางการเรียนการสอนแล้ว เรือนไทยหลังนี้ยังเป็นการทำนุบำรุงวัฒนธรรมของชาติ ส่งต่อวัฒนธรรมให้กับนักศึกษาซึ่งเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ซึมซับความเป็นไทยไปในตัวด้วย
แม้การมีเรือนไทยเป็นแลนด์มาร์ค จะเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจในมุมมองของฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังมีทัศนะอีกด้านจากประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ที่บอกว่า การก่อสร้างใดๆ ในมหาวิทยาลัย ผู้ที่ควรได้รับประโยชน์มากที่สุดคือตัวมหาวิทยาลัยเองและนักศึกษา / แต่หากสังเกตอย่างละเอียดจะพบว่า เสียงสะท้อนจากนักศึกษา ไมได้พึงพอใจกับการนำงบจำนวนมากไปสร้างเรือนไทย เพราะอยากให้ก่อสร้างอาคารเรียนและพัฒนาการเรียนการสอนมากกว่า"ล่าความจริง" ตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงบประมาณ พบว่า การใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานราชการ จะต้องเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ สำหรับการก่อสร้างอาคารสถานที่ อยู่ในหมวด "งบลงทุน" ซึ่งต้องแจกแจงรายละเอียด แบบแปลน และงบประมาณที่ใช้อย่างละเอียด พร้อมเสนอเป็นแผนงานงบประมาณของมหาวิทยาลัยเพื่อให้รัฐสภาอนุมัติ เมื่ออนุมัติแล้วจึงจะเริ่มก่อสร้างได้ และต้องมีการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง ตลอดจนการตรวจรับงานอย่างเข้มงวด ฉะนั้นหน่วยราชการจึงไม่สามารถโยกงบประมาณจากหมวดอื่น ไปใช้ในการก่อสร้างอาคารสถานที่ได้ทันที และหากจะโยกงบไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ก็ต้องขออนุมัติจากผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ตามกฎหมายวิธีการงบประมาณด้วย
ขณะที่ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ว่าด้วยวินัยทางงบประมาณและการคลัง ระบุไว้ในข้อ 50 ว่า เจ้าหน้าที่ผู้ใดใช้จ่ายเงินงบประมาณผิดวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ต้องรับโทษปรับทางปกครองชั้นที่ 3