
(11 ม.ค.61) ที่วัดพระนางสร้าง ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ. ภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการประกอบพิธีบวงสรวงตามหลักศาสนาและความเชื่อ ทั้งพิธีพราหมณ์และพิธีสงฆ์ เพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนทำการการปรับภูมิทัศน์และปรับทัศนียภาพ เคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้างภายในวัดพระนางสร้างที่ไม่เหมาะสมออกไป
โดยมีนายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต,นายทวี หอมหวล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต,นายกองโทอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง,หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน และจิตอาสา เข้าร่วม
นอกจากนี้ยังฝ่ายสงฆ์ โดยมีพระราชสิริมุณี เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานฝ่ายสงฆ์,พระครูพรหมประภัสสร เจ้าคณะอำเภอถลาง รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระนางสร้าง และ คณะสงฆ์ เข้าร่วมประกอบพิธี โอกาสนี้ยังได้มีการจัดกิจกรรม"ภูเก็ต สวยด้วยมือและใจเรา"เพื่อมาร่วมทำความสะอาด เก็บขยะ ปรับภูมิทัศน์ในพื้นที่บริเวณวัดพระนางสร้างด้วย โดยมีจิตอาสาและพี่น้องประชาชนเข้าร่วมประมาณ300คน
ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาพราห์มและศาสนาพุทธ นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมนำสำรวจพื้นที่เพิ่มเติม ก่อน สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เริ่มเคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้างบางส่วนออกให้แล้วเสร็จ ก่อนจะเริ่มนำเครื่องจักรหนักเข้าดำเนินการพร้อมกันในวันจันทร์ที่15มกราคมที่จะถึงนี้ต่อไปในระยะนี้ให้ดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างที่โยกย้ายได้ และมีผู้สนใจมารับไปได้
สำหรับการปรับปรุงภูมิทัศน์วัดพระนางสร้างในครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้มีการร้องเรียนผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อสาธารณะ เกี่ยวกับความไม่เหมาะสมของสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากภายในวัดพระนาง ต่อมาได้มีการปรพชุมคณะกรรมการสงฆ์ประจำจังหวัดภูเก็ต และคณะสงฆ์ได้มีมติสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าอาวาส วัดพระยางสร้าง และแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอถลาง รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระนางสร้างแทน
นอกจากนี้ยังได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาวัดฯ ซึ่งฝ่ายสงฆ์ มีพระราชสิริมุณี เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน และฝ่ายฆราวาส มีนายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ได้มีประชุมหารือสรุปแนวทางการพัฒนาวัดให้คืนสู่สภาพเดิมของวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีมติให้ทุบทำลาย รื้อถอน เคลื่อนย้าย สิ่งปลูกสร้างที่ไม่เหมาะสม จำนวน17รายการ และเริ่มดำเนินการนับจากที่ได้มีการบวงสรวงเรียบร้อยแล้ว
สิ่งปลูกสร้างที่จะมีการรื้อย้ายและทุบทำลายนั้น ต่างๆ มีจำนวน17รายการ ประกอบด้วย รูปปั้นหลวงพ่อแช่ม,เจดีย์7ชั้น,รูปปั้นยักษ์ชายหญิง,รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม,รูปปั้นตุ๊กตาจีนและตัวอาคาร,เก๋งจีนสองหลัง,รูปปั้นพระนางมัสสุหรี,รูปปั้นพระพิฆเนศ,รูปปั้นพระนางเลือดขาว(ยืนด้านนอก) และรูปปั้นสัญลักษณ์ ศาสนาอื่นๆ,รูปปั้นพระนั่งบนหลังเสือ,รูปปั้นเรือหงส์หน้าศาลาการเปรียญ,ซุ้มและที่ประดิษฐานพระประจำวัน รอบโบสถ์, ตราสัญลักษณ์รัชกาลที่9หน้าซุ้มประตู,อาคารเรียนเก่า (ที่พักคนงาน ),กำแพงด้านหน้า3จุด,ห้องทำงานของคนงาน,อาคารที่ทำการสภาตำบลและลานคอนกรีต และบันไดขึ้นพระนอน
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์วัดพระนางสร้าง เพื่อให้เกิดความถูกต้องเหมาะสม ตามหลักศาสนา ซึ่งในการรื้อถอนต่างๆ จะคำนึงถึงความเหมาะสม ความแข็งแรงของสิ่งก่อสร้าง และสิ่งก่อสร้างบางส่วนได้มีผู้แจ้งความประสงค์ที่จะขอเคลื่อนย้ายไปดูแลรักษา สักการะบูชา เช่น รูปปั้นพระพิฆเนศ รูปปั้นพระนางมัสสุหรี องค์เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งทางจังหวัดก็ยินดีให้มีการเคลื่อนย้ายไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม ในส่วนการปรับปรุงภูมิทัศน์ก็จะอยู่ในอำนาจของวัดที่จะดำเนินการโดยมีไวยาวัจกรและคณะกรรมการวัดเป็นผู้รับผิดชอบและพิจารณาร่วมกัน ภายใต้หลักของกรมการศาสนา
นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า ในการปรับปรุงจะแบ่งเป็น3ลักษณะ คือ1.การย้ายออก เช่น รูปปั้นต่างๆ หากมีผู้ใดหรือหน่วยงานมีความประสงค์จะรับไปประดิษฐานไว้ก็สามารถแจ้งความประสงค์ได้2.รื้อหรือทุบทำลาย ส่วนที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น ส่วนฐานของเจ้ารูปปั้นแม่กวนอิม และรูปปั้นตุ๊กตาจีนโดยรอบ,ฐานที่ตั้งของพระนางมัสสุหรี,เจดีย์7ชั้น รวมทั้งองค์หลวงพ่อแช่ม และ3.การปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสม เช่น กำแพงซุ้มประตู ต่างๆ
โดยเหตุที่ต้องมีการองค์หลวงพ่อแช่มขนาดความสูงประมาณ 30 เมตร นั้น เนื่องจากตรวจสอบพบว่า อยู่ในพื้นที่เขตของโบราณสถานของกรมศิลปากร และไม่มีการออกแบบให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังตรวจพบรอยร้าวโดยรอบฐานองค์พระ ซึ่งเสี่ยงที่จะพังทลาย จึงต้องทำการรื้อถอนทั้งหมด ขณะเดียวกันมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งของรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง4รายการ คือ ยักษ์เปลี่ยนจากถือปืนเป็นถือกระบองแทน บันไดทางขึ้นพระนอน พระประจำเกิด และตราสัญลักษณ์ในหลวง ร.๙ ที่สร้างไม่ถูกต้องตามแบบจะขอเปลี่ยนเป็นธรรมจักร
หนึ่งในตัวแทนชาวภูเก็ต ที่เข้าร่วมในพิธีบวงสรวงฯ ส่วนใหญ่ ระบุว่าดีใจที่จะได้เห็นวัดแห่งนี้กลับมามีสภาพเดิมอีกครั้ง เช่น นาง สายใจ แซ่บู้ ชาว ต.ศรีสุนทร หนึ่งในชาวภูเก็ตที่ผูกพันกับวัดแห่งนี้ ระบุว่าที่ผ่านมา ช่วงที่วัดมีการพัฒนาและสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆเพิ่มมากขึ้นก็รู้สึกเสียใจ และเสียดายโบราณสถานที่มีคุณค่าทางจิตใจถูกทำให้เสื่อมศรัทธา รู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นหลายฝ่ายมาร่วมกันหลายฝ่ายเข้ามาดำเนินการทำให้วัดแห่งนี้กลับมาเป็นสถานที่ที่น่าเลื่อมใสศรัทธามากขึ้น
ขณะที่ภาคประชาชนกลุ่มเฉพาะกิจพิทักษ์วัดพระนางสร้าง นำโดยนาย สุทธิศักดิ์ ศรีคง หรือ จิ๊บ สหายไร้ตัวตน ซึ่งเป็นผู้ที่เริ่มนำปัญหาต่างๆของวัดลงโพสต์เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียจนนำมาสู่การแก้ไขดังล่าว นับเป็นก้าวแรกในการเริ่มต้น บูรณะ ปรับปรุงสิ่งต่างๆภายในวัดให้เหมาะสม ถูกต้อง เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบว่า ตามข้อร้องเรียนที่เสนอไปนั้นได้รับการแก้ไขอย่างไรบ้าง
ด้านสมาชิกรายของกลุ่มอีกคนหนึ่ง ระบุเพิ่มเติมว่า วัดแห่งนี้อยู่คู่กับเมืองถลางมากว่า200ปี สภาพปัจจุบันเปลี่ยนไปมากจากการพัฒนาโดยขาดหลักการของอดีตเจ้าอาวาส จากนี้ไปจะคอยตรวจสอบว่ามีสิ่งใดที่ยังไม่กลับสู่สภาพเดิมและช่วยดำเนินการแก้ไขให้กลับสู่สภาพเดิม เพื่อให้สมกับที่เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน