ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งไปลงทุนปลูกในเขตมณฑลยูนาน โดยเฉพาะในสิบสองปันนา อีกส่วนเข้าไปเช่าพื้นที่ปลูกในประเทศ สปป.ลาว เพื่อส่งกลับไปยังประเทศจีนทั้งหมด
เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาล สปป.ลาว มองว่าการปลูกกลว้ยหอมคาเวนดิช คุกคามต่อความมั่นคงด้านของประชาชนชาวลาว จึงประกาศไม่ส่งเสริมให้มีการปลูกกล้วยหอมคาเวนดิช เพื่อนำพื้นที่ปลูกพืชที่เป็นอาหารหลักคือข้าว ทำให้นักธุรกิจจีนเบนทิศทางการปลูกกล้วยหอมคาเวนดิช มายังประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือมีมากที่สุดที่ จ.เชียงราย
กระนั้นก็ปลูกได้ในจำนวนที่จำกัด เพราะติดเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ทางหมาวิทยาลัยแม่โจ้ สบช่องมองว่า กล้วยหอมคาเวนดิช เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอนาคตสำหรับประเทศไทย เนื่องจากตลาดจีนยังรับไม่อั้น จึงจับมือพันธมิตรสร้างเครือข่าย มา ส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกกล้วยหอมคาเวนดิช พร้อมรับซื้อผลผลิตทั้งหมด เพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน
ล่าสุดได้มีการเตรียมที่จะศูนย์ส่งเสริมและวิจัยพัฒนากล้วยหอมคาเวนดิชเพื่อส่งออกเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
ดุจเดียวกับยักษ์ใหญ่ "เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) โดยมอบให้กลุ่มพืชครบวงจร จับมือกับยักษ์ใหญ่ในวงการผลิตและจำหน่ายกล้วยหอมคาเวนดิชระดับโลก "โดล เอเชีย จำกัด" หันส่งเสริมเกษตรกรไทยปลูกกล้วยหอมเขียว "คาเวนดิช" เป้าหมายแรก 6 หมื่นไร่ พร้อมจะรับซื้อผลผลิตทั้งหมดจากเกษตรกรในราคา กก.ละ 12 บาท
ดร.กอบลาภ อารีศรีสม รอง ผอ.ศูนย์กล้วยไม้และไม้ดอกไม้ประดับมหาวิทลัยแม่โจ้ ที่หันมาศึกษาเกียวกับกล้วยคาเวนดิช และสนับสนุนเกษตรกรให้ปลูกด้วย บอกว่า คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ไปดูงานด้านการที่ประเทศจีน และได้พบกับบริษัทนำเข้ากล้วยหอมคาเวนดิชรายใหญ่ของ บอกว่า อยากให้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ส่งเสริมเกษตรกรปลูกกล้วยคาเวนดิช อย่างถูกวิธี
และทางบริษัทนำเข้าของจีนเพียงรายเดียว ยืนยันจะเป็นผู้รับซื้อได้อาทิตย์ละถึง 500 ตัน เขาจึงประสานงานกับกลุ่มเกษตรกรที่สนใจและส่งเสริมลูกไร่ให้ปลูกกล้วยคาเวนดิช ให้เป็นพันธมิตรในเครือข่าย เมื่อปีที่แล้วนี้เอง การส่งเสริมเกษตรกรตอนนี้ได้มาระดับหนึ่ง แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องของลูกค้า
"ตอนนี้กล้วยหอมคาเวนมาแรงมาก ผมประเมินว่า ต่อให้เกษตรกรปลูก 5 แสนไร่ก็ไม่พอ ขนาดบริษัทเดียวยังต้องการถึงอาทิตย์ละ 500 ตัน แต่ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายบริษัทที่ต้องการนำเข้าเช่นกัน ตรงนี้ผมมองว่าพืชชนิดนี้มีอนาคตแน่นอน เพราะกล้วยหอมคาเวนดิชมีผู้บริโภคมากที่สุดถึง 95% ทั่วโลก เมื่อเทียบกับกล้วยหอมอื่น"
จึงถือเป็นทางเลือกใหม่ให้กับเกษตรกรไทยด้วย ดร.กอบลาภ จึงตัดสินใจ จะตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนากล้วยหอมหอมคาเวนดิชเพื่อส่งออก โดยตรงถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ด้าน ขุนศรี ทองย้อย ประธานผู้บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด บอกว่า ทาง ซีพี เป็นผู้นำด้านธุรกิจการเกษตรในภูมิภาคแล้ว และมีธุรกิจด้านการในประเทศจีนด้วย สถานการณ์ปัจจุบันจีนต้องการกล้วยหอมคาเวดิชเป็นจำนวนมาก
จากเดิมจีนจะนำเข้าจากประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้แหล่งปลูกรายใหญ่ที่ของภูมิภาคเอเซีย และเป็นอันดับสองของโลก แต่ปัจจุบันด้วยผลใดก็ตาม จีนไม่ได้นำเข้าจากฟิลิปปินส์ จึงมองว่า เป็นโอกาสทองของเกษตรกรที่น่าจะหันมาปลูกกล้วยหอมคาเวนดิช เพราะมีตลาดรองรับที่ชัดเจน
"ซีพี เองไม่มีประสบการณ์มากที่ส่งเสริมและหันมาปลุกพืชชนิดนี้ แต่บริษัท โดลเอเชีย จำกัด เป็นผู้ชำนาญด้านนี้ เพราะเป็นรายใหญ่ของโลกที่ส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกกล้วยหอมคาเวานดิชทั้งในฟิลิปปินส์ อเมริกาใต้ โดยเฉพาะเอกวาดอร์ เราจึงจับมือกับโดล เอเซีย เพื่อส่งเสริมเกษตรกรไทยหันมาปลูกกล้วยหอมคาเวนดิช เบื้องต้นเราตั้งเป้าจะส่งเสริมจำนวน 6 หมื่นไร่ก่อน ผลผลิตจะรับซื้อเองทั้งหมดในราคาประกัน กก.ละ 12 บาท" ขุนศรี ยืนยัน
ขุนศรี บอกด้วยว่า ปัจจุบัน ซีพี มีแปลงทดลองแล้ว ในแปลงผลิตของบริษัททั้งที่ จ.กำแพงเพชรและ จ.ชลบุรี เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว 2 ครอป ส่งให้กับ โดล เอเชียเพื่อทดลองส่งออกแล้ว และจากการที่ได้ทดลองปลูกในแปลงทดลอง พบว่ากล้วยชนิดนี้สามารถปลูกในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
"ที่แปลงเรา เฉลี่ยผลผลิตเครือละอยู่ที่ 30- 40 กก.โดยประมาณ พื้นที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตราย 7-8 ตัน ถ้าราคา กก.ละ 12 บาท จะมีรายได้ไร่ละ 8.4 หมื่นบาทใช้เวลา ราว 9-10 เดือน ลงทุนชุดแรก ค่าปรับที่ดิน ระบบน้ำ ต้นกล้า ปุ๋ย ค่าแรงตกราว 3.2 หมื่นบาท ชุดแรกมีกำไรแล้ว ชุดต่อไป ค่าปรับดินไม่มี ระบบน้ำก็ไม่มี ต้นกล้าก็ไม่มี เพราะเรามีเทคโนโลยีชั้นสูง ลงทุนค่าต้นกล้าครั้งเดียว อยู่ได้ถึง 10 ปี ลองคิดดูครับ จะมีรายได้ต่อไร่ต่อรุ่นเท่าไร ที่สำคัญรุ่นต่อมาใช้เวลาเพียง 6 เดือนต่อครอป เพราะใช้หน่อลูก ได้ทั้งเงินเพิ่ม ระยะเวลาสั้นอีกด้วย" ขุนศรี ให้ข้อคิด
จึงนับเป็นพืชเศราฐกิจตัวใหม่สำหรับประเทศไทย ทีเป็นทางเลือกของเกษตรกร
ดังนั้น หากสนต้องการจะปลูกกล้วยหอมเขียว คาเวนดิช วันที่ 26 สิงหาคม 2560 นี้ มีสัมมนาหัวข้อ "จับกล้วยหอมเขียว คาเวนดิช ปลูกในไทยสดใสในตลาดโลก" ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่โทร. 089-7835887 081-497-7680