ศาลอุทธรณ์ เพิ่มโทษคุก 2 ปี "ไฮโซตั๋ม"หมิ่น"หมอแอร์"

ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 22 ส.ค.60 เวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.1054/2558 ที่ พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาลหรือหมอแอร์ อายุ 39 ปีแพทย์ประจำกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด และอดีตทีมโรงพยาบาลตำรวจ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.วิชชุดา ลีนุตพงษ์ หรือไฮโซตั๋ม อายุ 36 ปี เป็นจำเลยเมื่อวันที่ 19 มี.ค.58 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา มาตรา 326, 328 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ.58 ไฮโซตั๋ม จำเลย ให้สัมภาษณ์และโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ทำนองว่า หมอแอร์ โจทก์ เป็นมือที่ 3 จนทำให้จำเลยต้องเลิกรากับแฟนหนุ่ม ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง
โดยศาลอาญาซึ่งเป็นศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ส.ค.59 เห็นว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดกรรมเดียว จึงให้จำคุกไฮโซตั๋ม 2 ปีปรับ 100,000 บาท รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปีและปรับ 50,000 บาทโดยให้รอลงอาญา 2 ปี และให้จำเลย ลงโฆษณาคำพิพากษาด้วยในหนังสือพิมพ์ 1 ฉบับติดต่อกัน 3 วัน กับเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กด้วยติดต่อกันเป็นเวลารวม 15 วัน
ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานหนัก ขณะที่ฝ่ายจำเลย ก็ยื่นอุทธรณ์ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้ว เห็นว่า การที่จำเลยใส่ความโจทก์ในเฟซบุ๊ก ทำให้บุคคลที่สามเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพส่วนความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) นั้นระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้มีการแก้ไขมาตรา 14 (1) มีผลใช้บังคับ ให้ไม่รวมความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา การกระทำความผิดของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามกฎหมายที่บัญญัติไว้เป็นเหตุให้จำเลยพ้นจากการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ส่วนที่โจทก์ อุทธรณ์ลงโทษสถานหนัก โดยจำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำจำเลยมีเจตนาป่าวประกาศใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ซึ่งการกระทำนั้นเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรม จึงให้จำคุกจำเลย 4 กระทงๆละ 1 ปีและปรับกระทงละ 100,000 บาท รวมจำคุก 4 ปีและปรับ 400,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสนบาท แต่เมื่อจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนและสำนึกผิดโดยวางเงินต่อศาลเพื่อมอบให้แก่โจทก์บรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และให้ยกฟ้อง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) รวมทั้งยกคำขอให้โฆษณาคำพิพากษาในเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กด้วยภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว น.ส.วิชชุดาหรือไฮโซตั๋ม ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใดขณะที่นายประพันธ์พงศ์ ธรรมชาติ ทนายความของไฮโซตั๋ม กล่าวว่า คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำฝ่ายเราเป็นไปตามที่โจทก์อุทธรณ์ว่าได้ฟ้องให้ลงโทษ 4 กรรม จึงมีการเพิ่มเติมโทษจำคุกเพิ่ม แต่ศาลก็ได้บรรเทาโทษให้จำเลยโดยรอลงอาญาไว้ 2 ปี อย่างไรก็ดีฝ่ายเรามีสิทธิจะยื่นฎีกาได้ แต่ทั้งนี้ให้คู่ความตัดสินใจต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้เป็นสำนวนสุดท้ายสำนวนที่ 3 ข้อพิพาทหมิ่นประมาทกันระหว่าง หมอแอร์ กับ ไฮโซตั๋ม
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.60 ที่ผ่านมา มีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำ อ.1153/2558 ที่หมอแอร์ ยื่นฟ้องไฮโซตั๋ม จากพฤติการณ์ลักษณะเดียวกัน ซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุก 8 กระทงรวม 8 ปีและปรับ 800,000 บาท รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 4 ปีและปรับ 400,000บาทซึ่งโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี
และคดีหมายเลขดำ อ.2922/2558 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องไฮโซตั๋ม หมิ่นประมาทหมอแอร์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ ก็มีคำพิพากษาจำคุกไฮโซตั๋ม 6 กระทงรวมจำคุก 6 ปีและปรับ 6 00,000 บาท รับสารภาพลดโทษเหลือจำคุก 3 ปีและปรับ 300,000 บาทโดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี -