จากกรณีผู้ต้องหา4 คน ประกอบด้วยนายโสภณ โกสินทร์ อายุ 36 ปี นายรัตนเทพ ชัยปราณีเดช อายุ 21 ปี นายปกรณ์ ชูวงค์ อายุ 24 ปี และนายสิทธิชัย โสลุน อายุ 24 ปี ได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทภายในปั๊มน้ำมันบางจาก ถ.สุขาภิบาล5 ซ.17 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขต กรุงเทพฯ ก่อนจะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจและขับรถหลบหนีไป ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ก่อนจะควบคุมตัวมาที่สน.สายไหม และเกิดเหตุการณ์ต่อยตีอาละวาดบนสน. เมื่อกลางดึกของวันที่ 5 กรกฎาคมผ่านมา นอกจากนี้ทางการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุคือแก๊ง"ยันหว่าง" ที่เคยก่อเหตุยิงคนเสียชีวิตและบาดเจ็บที่ซอยสายไหม34 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ที่สน.สายไหม เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย ช่วยกันควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ส่งฟ้องศาลมีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา"ร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงาน", "ต่อสู้และขัดขว้างการจับกุมขณะปฏิบัติหน้าที่" , "ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าพนักงาน" , "ทำให้ทรัพย์สินราชการได้รับความเสียหาย", "ปล้นทรัพย์" , และแจ้งข้อหาเพิ่มแก่นายโสภณ "เมาสุราหรือมึนเมาสารเสพติดอย่างอื่นแล้วขับรถ" เพิ่มเติมด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนเนื่องจากพยานให้การว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการข่มขู่ในที่เกิดเหตุจึงกลัวว่าพยานจะได้รับอันตราย
ทั้งนี้ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ภายในห้องขังในสน.นายโสภณ 1 ใน 4 ผู้ต้องหาได้มีการตะโกนโวยวาย และมีการเขย่ากรงขังใช้เท้าถีบประตูอยู่ตลอดเวลา จนเจ้าหน้าที่ต้องจับขังแยกอยู่คนเดียว เนื่องจากเกรงว่าจะทำอันตรายผู้ต้องหาคนอื่น นอกจากนี้ขณะควบคุมตัวเข้าห้องขังนายโสภณยังหยิบหนังสือสิบเวรที่ไว้จดรายชื่อผู้ต้องหาบริเวณหน้าห้องขังมาฉีกจนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังทำลายหลอดไฟ โถส้วม และก็อกน้ำภายในห้องขังด้วย ต่อมาเมื่อพ.ต.ต.บดินทร์ ชูเฉลิม สวป.สน.สายไหม ได้เดินเข้าไปตรวจความเรียบร้อยภายในห้องขังนายโสภณยังมีการตะโกนด่าทอและท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธในข้อหา และไม่ยอมให้ความร่วมมือใดๆ จนกระทั่งเวลา 12.00 น. จึงให้ความร่วมมือ และยอมรับทราบข้อกล่าวหา ทำให้ต้องเลื่อนการส่งตัวฟ้องศาลจากช่วงเช้าเป็นช่วงบ่ายแทน