svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

โรคเก็บสะสมของ ไม่หายขาด แต่รักษาได้

มีข่าวแปลกๆ เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา สาวทอมเก็บสะสมขยะอยู่ภายในห้องเช่าจนเน่าเหม็นไม่ยอม เอาออกมาทิ้ง

จนกระทั้งเจ้าของหอพักเข้าไปพบ ถึงกับเชิญเธอออก สภาพห้องที่เต็มไปด้วยขยะเป็นสิ่งแวดล้อมที่คนทั่วไปไม่สามารถอาศัยอยู่ได้
คำถามคือพฤติกรรมสะสมของ และขยะของหญิงรายนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ในทางการแพทย์มี โรคชนิดหนึ่ง คือ "โรคเก็บสะสมของ" เป็นอาการทางจิตเวช ของคนที่ชอบเก็บสะสมของไว้มาก
ไม่กล้าทิ้งอะไรเลย ยึดติดว่าทุกชิ้นเป็นของสำคัญ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
โรคนี้เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในเกณฑ์วินิจฉัยโรคทางจิตเวช (DSM 5) เมื่อปี พ.ศ. 2556
ซึ่งพฤติกรรมการเก็บสะสมของนั้นจะเริ่มมาตั้งแต่วัยรุ่น และเมื่อมีอายุมากขึ้นก็จะมีสิ่งของที่ให้เก็บสะสมมากขึ้น และอาการของโรคก็จะรุนแรงขึ้นด้วย
จากการศึกษาพบว่าที่มาของโคร มีอยู่หลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรมคนที่มีสมาชิกครอบครัว โดยเฉพาะญาติสายตรง
เช่น พ่อหรือแม่ ที่เป็นโรคชอบสะสมของก็มีสิทธิ์ป่วยเป็นโรคชอบสะสมของเช่นกัน
หรือกับบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บที่สมองส่วนหน้าจนถึงสมองส่วนกลาง พบว่าก่อนหน้านั้นพวกเขาไม่เคยมีพฤติกรรมสะสมสิ่งของที่ไร้ประโยชน์เลย จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บที่สมอง
นอกจากนี้แล้ว ยังพบว่าอาการชอบเก็บสะสมของนั้นยังเกิดขึ้นได้กับคนที่เป็นโรคอื่น ๆ ด้วย เช่น โรคย้ำคิดย้ำทำ
หนึ่งในสามของคนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ เป็นโรคชอบเก็บสะสมของด้วย
บางคนที่เป็นโรคสมองเสื่อมก็มีอาการชอบสะสมสิ่งของ โรคซึมเศร้า อาจทำให้เราหมดความสนใจในกิจวัตรประจำวัน ทำให้เราไม่มีสมาธิ และตัดสินใจยาก
โรคไบโพลาร์ อาจทำให้เราช้อปปิ้งมากเกินไปและมีปัญหาในการจัดการ โรคจิตเภท อาจทำให้เรามีความเชื่อแปลก ๆ และจัดการได้ไม่ดี
ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมชอบสะสมของได้ และความบกพร่องทางการเรียนรู้ อาจทำให้เรามีปัญหาเกี่ยวกับความคิดและความจำ
อาการโรคเก็บสะสมของ (Hoarding Disorder) คือไม่กล้าตัดสินใจทิ้งข้าวของเลยและมีความกังวลใจมากเมื่อต้องทิ้งข้าวของ
รู้สึกยากลำบากในการจัดเรียงข้าวของให้เป็นหมวดหมู่ รู้สึกทนทุกข์กับการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างมาก
หรือรู้สึกละอายใจเพราะข้าวของที่ตัวเองเก็บ ไม่ไว้ใจ กลัวคนอื่นจะมาแตะต้องข้าวของตัวเอง และไม่ยอมให้ใครมาหยิบยืมไปด้วย มีความคิดและการกระทำที่หมกมุ่น
เช่น กลัวว่าถ้าทิ้งสิ่งใดไปแล้ว ในอนาคตจะไม่มีใช้ เมื่อเผลอทิ้งสิ่งใดไปก็จะรีบไปเช็กดูที่ถังขยะแล้วเอากลับคืนมาทันที
เมื่อนักจิตวิทยาวิเคราะห์ ถึงเหตุผลลึก ๆ ของคนป่วยโรคเก็บสะสม ก็พบว่า บางคนหลังจากที่ประสบกับเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต
เช่น สูญเสียคนที่รัก หย่าร้าง ไฟไหม้บ้าน ก็อาจจะเริ่มมีอาการเก็บสะสมของด้วย ทั้งนี้เพราะพวกเขากลัวว่าจะต้องสูญเสียอะไรไปอีก
บางคนที่โตมาในครอบครัวฐานะยากจนจะมีความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเงินพอหรือไม่มีทางมีเงินพอที่ซื้อของใหม่แน่ ๆ จึงเก็บสะสมของทุกอย่างที่ขวางหน้า
นอกจากนี้บางคนที่โตมาในครอบครัวที่มักทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคเก็บสะสมของด้วยเช่นกัน
ขณะที่คนที่อาศัยอยู่คนเดียวและเป็นโสด อาจจะรู้สึกเหงาจนต้องเก็บสะสมของ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเก็บสะสมของได้
โรคเก็บสะสมของจะมีลักษณะเรื้อรัง ไม่หายขาด แต่สามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้
โดยในปัจจุบันวิธีรักษาโรคเก็บสะสมของนั้นนิยมรักษาอยู่ 2 แนวทาง คือการให้ยาต้านเศร้าแบบพฤติกรรมบำบัด
1. ใช้ยาต้านเศร้า (antidepressant) คุณหมอจะให้ยาต้านเศร้าเพื่อให้เราลดความเครียดและความหมกมุ่นในการสะสมของ อย่างไรก็ตามวิธีนี้ได้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
2. พฤติกรรมบำบัด เป็นหนึ่งในวิธีรักษาอาการทางจิตที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมและค่อนข้างได้ผลพอสมควร
ซึ่งวิธีนี้ก็สามารถใช้เยียวยาอาการของโรคเก็บสะสมของได้ด้วย โดยเป็นวิธีที่มุ่งเน้นฝึกทักษะการตัดสินใจให้ผู้ป่วยสามารถจัดการเก็บหรือทิ้งสิ่งของในครอบครองได้อย่างมีเหตุผลยิ่งขึ้น การจัดกลุ่มข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งฝึกให้ทนได้กับการทิ้งของเหลือใช้ร่วมด้วย

ขอบคุณข้อมูล สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย