รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลกำลังเดินหน้าพัฒนาประเทศสู่การเป็น Thailand 4.0 ซึ่งจะสามารถ นำมาพัฒนาประเทศไปสู่การเป็น Thailand 4.0 ได้จากการเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติด้วยความตั้งใจจริง มุ่งมั่นที่จะนำความรู้ เทคโนโลยี โดยเฉพาะด้านการเกษตรไปปรับใช้ต่อยอด พัฒนางานเกษตรกรรมด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การริเริ่มนวัตกรรม ต่อยอดจนพัฒนาทักษะฝีมือของตนเองเพื่อนำพาตนไปสู่การเป็น Young Smart Farmer หรือเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีความชาญฉลาดด้านการทำเกษตรกรรม ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้การเกษตรของไทยมีความก้าวหน้า ทันสมัย สามารถตอบสนองกับ ยุคThailand 4.0 ได้
สำหรับการปฏิบัติงาน ขอให้ปรับตัว มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายจ้าง หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน
ด้านนางสาวชลธิชา แถบวิลัย อายุ 23 ปี จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นกล่าวว่า ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆทางเทคโลโลยีการเกษตร รู้จักการปรับตัว และจะนำเรื่องการบริหารจัดการด้านการตลาด การตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตและผู้บริโภค การซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นระบบที่ดีมาก ของอิสราเอล และจะนำไปปรับใช้ในการทำงานในอนาคตแน่นอน
ทั้งนี้การนำนักศึกษาจากประเทศไทยมาฝึกงานที่อิสราเอลจะอยู่ภายใต้โครงการความร่วมมือจัดการเรียนการสอน ปวส.พืชศาสตร์ ทวิภาคีไทยอิสราเอล ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาเกษตรโดยใช้รูปแบบทวิภาคี ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.= OVEC) ประเทศไทย และ Arava International Center for Agriculture and Technology (AICAT) ประเทศอิสราเอล
โดย สอศ. ได้มอบหมายให้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด มหาสารคาม และศรีสะเกษ เป็นสถานศึกษาศูนย์การเตรียมความพร้อม ให้แก่นักศึกษาที่มาจากทั่วประเทศ เพื่อให้นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้เทคโนโลยีที่ทันสมัยด้านเกษตรกรรม ได้เรียนรู้งานด้านการเกษตร โดยการฝึกปฏิบัติงานจริงในฟาร์มเกษตรกร (Learning by doing) และนำความรู้ที่ได้รับมาจัดทำโครงการเกษตรในสถานศึกษา เพื่อเป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังได้เดินชมดูแปลงสาธิตการเพาะปลูกพืชการเกษตร มากมาย อาทิ ปลูกพริก มะระขี้นก มะเขือเทศ มะเขือยาว แตงโม แคนตาลูป เป็นต้น และ จะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไปต่อยอดและจะจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ต่อไป