พายุถล่ม จ.ร้อยเอ็ด 4 หมู่บ้าน พังราบ 70 หลัง
พายุถล่ม 4 หมู่บ้าน พังราบ 70 หลัง ทหาร ปกครอง และท้องถิ่นลงแก้ไขปัญหาทันทีหลังเกิดเหตุ นายกท้องถิ่นเผยจะช่วยภายในไม่เกิน 24 ชม.เพราะจัดสรรเงินฉุกเฉินผ่านสภาเตรียมไว้แล้ว 3 แสนบาท พร้อมกับเร่งเสนอแผนผ่านอำเภอไว้ด้วยพอ เพื่อเสนอจังหวัดของบเพิ่มฉุกเฉิน หากเงินไม่พอ
หลังจากที่กิดพายุฝนพัดถล่มบ้านเรือนราษฏรเสียหายจำนวนมาก ที่ บ้านม่วงน้ำ หมู่ 1 ,2,3 และหมู่ 12 ต.ปาฝา อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (21 มีนาคม 2560 )และหลังจากเกิดเหตุเพียง 1 ชั่วโมง ที่ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับแจ้งเหตุ ก็ได้ประสานแจ้งเหตุไปยังปกครองอำเภอ และประสานไปยังหน่วยทหารชุดช่วยเหลือประชาชนเฉพาะกิจช่วยเหลือเหตุวาตภัย ของมณฑลทหารที่ที่ 27 จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือทันที
โดยทางด้านหน่วยทหาร มทบ.27/บก.ควบคุม กกล.รส.จว.ร.อ.จัดกำลังจากร้อย.รส.มทบ.27 จำนวน 31 นาย ได้ประสารกับ นายประเทือง รักความชื่อ นายกอบต.ปาฝา และ ฝ่ายปกครองอ.จังหาร นำเครื่องมือและกำลังคนเข้าช่วยเหลือ ตัดตั้นไม้ที่ล้มทับบ้านเรือนและเข้าช่วยเหลือราษฎร ช่วยการช่วยเหลือเก็บวัสดุ สังกะสี ไม้ และหลังคาบ้านเรือน ที่บ้านเรือนถูกพายุพัดเสียหาย และช่วยยกแผงสังกะสี และหลังคาบ้านถูกพายุพัดออกไปทับบ้านคนอื่นออก เพื่อให้เกิดความปลอดภัย รวมทั้งตัดต้นไม้ที่ทับหลังคาบ้านอออก ให้กับชาวบ้านที่ประสบภัย ซึ่งจากการสำรวจและให้ความช่วยเหลือพบว่า มีบ้านเรือนราษฏร บ.ม่วงน้ำ ม.1, 2, 3, 12 ต.ปาฝา อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ในครั้งนี้ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 70 หลังคาเรือน ที่ประสบภัยวาตภัย(พายุฤดูร้อน)ที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา ประมาณ 15.00 น.ดังกล่าว
ในขณะที่ทางด้านนายประเทือง รักความซื่อ นายกเทศมนตรีปาฝา กล่าวว่าจาก การสำรวจเบื้องต้นที่พบว่ามีบ้านเรือนของราษฎรได้รับความเสีย จำนวน 70 หลังคาเรือน เท่าที่สำรวจพบและที่ยังอาจจะมีตกหล่นนั้น จะไมมีปัญหาด้านการให้ความช่วยเหลือลัแก้ปัญหาบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้าน เพราะได้มีการจัดเตรียมเงินที่จัดเตรียมช่วยเหลือผ่านสภาตามข้อบัญญัติแก้ปีญหาภัยพิบัติผ่านสภาเพื่อแก้ปัญหาภัยฉุกเฉินสำรองไว้แล้ว 300,000 บาท ( 3 แสนบาท) ซึ่งสามารถดำเนืนการแก้ปัญหาซื้อวัสดุซ่อมแซมบ้านให้ชาวบ้านทีประสบภัยได้ทันที โดยในวันพรุ่งนี้ จะให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินซื้อวัสดุมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านภายในเวลาไม่เกินบ่ายวันพรุ่งนี้ ในขณะเดียวกันก็ให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจและประมาณการควาสมเสียหายแล้ะงินที่ต้องจ่ายนว่าเพียงพอหรือไม่ เพื่อเตรียมส่งเร่องรายงานไปยังที่ว่าการอำเภอและส่งเรื่องไปยังจังหวัดให้จัดสรรเงินมาช่วยเหลือเพิ่มเติมหากเกิดกรณีเงินไม่เพียงพอ เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน เนื่องจากอยู่ในสภาวะหน้าฝน หากช่วยไม่ทันท่วงที ก็จะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เมื่อมีฝนตกลงมาอีก