
เมื่อเวลา13.00น. วันที่ 11 พ.ย.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้านหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวสร็จแล้วก็จะออกหาขุดปูนา กบจับปลาธรรมชาติ พืชผักธรรมชาติที่ขึ้นตามท้องไร่ทุ่งนา เพื่อมาทำอาหารบางคนอาจจะหามาขายเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วยโดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่อำเภอศีขรภูมิ อำเภอศรีณรงค์ และอำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ อาศัยช่วงหลังเกียวข้าว ออกไปหาขุด ปูนา จับกบ กุ้งฝ่อย และจับปลาชนิดต่างๆ อาทิ ปลาช่อน ปลากระทิง ปลาหลด ปลาขาว ปลาซิว ปลาสร้อย และปลาแก้ว ฯลฯ ตามท้องทุ่งนา แล้วพากันนำออกมาวางขายแบกะดินที่บริเวณตลาดน้อย ซึ่งเป็นตลาดชาวบ้านข้างทางรถไฟอำเภอศีขรภูมิเป็นจำนวนมาก
สำหรับอาหารที่เป็นที่นิยมในช่วงนี้คงจะหนีไม่พ้น อาหารที่ชาวบ้านในพื้นที่อีสานฮิตและเป็นเมนูที่หาทานยาก หนึ่งปีมีครั้งเดียว คือ ปูนา ซึ่งพบว่าขายดีมาก ราคาพุ่งถึงกิโลกรัมละ100 บาทเลยทีเดียว หรือแบ่งจำหน่ายในราคาถุงละ 20 บาท หรือ 3 ถุง 50 บาท เพื่อให้ลูกค้าซื้อง่ายขายคล่องอีกด้วย
โดยชาวบ้านสวนใหญ่ที่มาซื้อ ปูนา ส่วนใหญ่บอกว่าปูนา นำไปทำเมนูอร่อย ที่คนพื้นถิ่นเขมรสุรินทร์ จะเรียกว่าละแวกะดาม ภาษาอีสานเรียกว่า ละแวกะปู หรือ อ่อมกะปู นั้นเอง นอกจากนี้ ยังสามารถ นำปูนา ไปปิ้ง ต้อมทอด ย่างตำน้ำพริก หรือ ลาบปูนาก็อร่อยไม่แพ้ใคร
นางกรนันท์บุญตาม เเม่ค้าขายปู กล่าวว่า ช่วงนี้มีปลาดุกนา ปลาช่อนนา กุ้งฝ่อย และปูนา ช่วงนี้ขายดีมาก ใส่ถ้วยก็มี ขายเป็นกิโลกรัมก็มี ปูนาใส่ถุงละ20บาท ถ้าเป็นกิโลกรัมละ100บาท เฉลี่ยเป็นตัวตกตัวละ2บาท ถ้าตัวใหญ่ ช่วงนี้หาปูนาไม่ค่อยได้ น้ำมันเยอะฝนมันตกมาอีก ปลาหลด พวงละ50บาท กิโลกรัมละ250บาท ปลาซิวอ้าวกิโลกรัมละ130บาท ปลาขาวนา กิโลกรัมละ 100 บาทรายได้แล้วแต่วันๆไหนคนซื้อเยอะก็ได้เยอะ เหลือกำไรวันละไม่ต่ำกว่า1.000บาท มีรายการเสริมจาการทำนา เดือนละกว่า30,000บาท ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น