svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"กำนันเบิ้ม" ผู้ต้องหาทุจริตลำไยปี 47 ตายแล้ว! ในคุกลำพูน

ลำพูน - "กำนันเบิ้ม" ผู้ต้องหา ร่วมกันทุจริตลำไยอบแห้งปี 2547 อันลือลั่น เสียชีวิตแล้วในเรือนจำลำพูน

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ร.ต.อ.บวรรชฏ มายะลา รองสารวัตร ( สอบสวน ) สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำลำพูนว่า มีนักโทษเสียชีวิต จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบศพ นายพากเพียร อิศรางกูล อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/1 หมู่ 7.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว เจ้าหน้าที่จึงนำศพไปเก็บไว้ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลลำพูนเพื่อรอให้ญาติมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

      สำหรับนายพากเพียร อิศรางกูล หรือ กำนันเบิ้ม เป็นผู้ต้องหาคดีทุจจริตลำไยพร้อมกับพวกเมื่อปี 2547 หลังจากศาลได้ออกหมายจับนายพากเพียร ได้หลบหนีการจับกุม จนกระทั่งเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา กำนันเบิ้มถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลำพูน จับกุมดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันกับพวกสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐทุจริตลำไยอบแห้งในพื้นที่ จ.ลำพูนและเชียงใหม่ หลังจากรอฟังคำตัดสินคดีจากศาล กำนันเบิ้ม มีอาการไม่สู้ดีเนื่องจากป่วยด้วยโรคประจำตัวหลายโรค จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ กำนันเบิ้มได้เสียชีวิตลง

      นางติ๋ม อิศรางกูล อายุ 60 ปี ภรรยา กำนันเบิ้ม ให้การว่า หลังจากที่สามีถูกตำรวจจับมาเข้าคุกที่ จ.ลำพูน ก็มีอาการไม่สู้ดี เนื่องจากป่วยด้วยโรคเบาหวาน ความดัน จนกระทั่งมาพบโรคเพิ่มเมื่อไม่นานมานี้คือโรคมะเร็งปอด สามีก็อยากจะประกันตัวออกไปรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่เนื่องจากสามีหนีหมายศาล เมื่อถูกจับกุม แล้วมาขอประกันตัวศาลจึงมีความเห็นไม่อนุญาต จนกระทั่งมาเสียชีวิตในเรือนจำ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ติดใจเอาความก็จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนของคดี เมื่อสามีเสียชีวิตทุกอย่างคงจะจบไปตามกระบวนการของกฎหมาย

ส่วนคดีการทุจริตลำไยนั้น ก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งที่ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ดำรงตำแหน่งได้สอบสวนคดีทุจริตลำไยปี 2547 โดยตำรวจได้สอบปากคำเกษตรกรทั้งสิ้น 49,016 ราย พบว่า เกษตรกรไม่ได้นำลำไยไปขายจริงกว่า 4 พันราย มีลำไยที่สวมสิทธิ์เกษตรกรจำนวนกว่า 44 ล้านกิโลกรัม โดยมีพฤติการณ์ต่าง ๆ คือ ปลอมลายมือชื่อเกษตรกรไปใช้ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกลำไย 605 ราย สมยอมกับเกษตรกรกว่า 1,700 ราย กว้านซื้อใบ จากเกษตรกรกว่า 2,000 ราย อ้างตนเป็นเกษตรกรแล้วนำลำไยจากแหล่งอื่นมาขาย 79 ราย ซึ่งเป็นการกระทำผิดฐานฉ้อโกงแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ปลอมเอกสาร และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน 

โดยในการนี้ยังพบหลักฐานการถอนเงินโดยให้เกษตรกรลงชื่อมอบฉันทะให้กว่า 3,000 ฉบับรวมเป็นเงินกว่า 160 ล้านบาท จากการตรวจสอบทางเดินของเงินพบว่าส่วนใหญ่ผู้ประกอบการรับซื้อเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและเป็นผู้รับผลประโยชน์ พบหลักฐานเชื่อมโยงกับหน่วยรับซื้อ 39 หน่วยที่เข้าข่ายกระทำผิด พบผู้เข้าข่ายกระทำผิด 546 คน เป็น นักการเมืองระดับท้องถิ่นเข้าพัวพัน 9 คน เจ้าหน้าที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร 57 คน ผู้กระทำผิดจังหวัดเชียงใหม่ 3 หน่วยรับซื้อ และที่จังหวัดลำพูน 9 หน่วยรับซื้อ รวมมูลค่าลำไยที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรถูกฉ้อโกงในการรับซื้อปี 2547 กว่า 495 ล้านบาท