svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"PRIMETIME กับ เทพชัย" : อิสรภาพชั่วคราว! ของ "ผู้พันตึ๋ง"

ถ้าเอ่ยชื่อ "ผู้พันตึ๋ง" หรือ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ เมื่อ 16 ปีก่อน คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก "ผู้พันตึ๋ง" เพราะตกเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีสังหารโหด นายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ต่อมา ผู้พันตึ๋งถูกศาลตัดสินประหารชีวิต และจากนั้นลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต จากนั้นก็ได้รับการลดโทษมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้รับการพักโทษ หลังจากถูกจำคุกมาแล้วเกือบ 16 ปี


"PRIMETIME กับ เทพชัย" :  อิสรภาพชั่วคราว! ของ "ผู้พันตึ๋ง"


ถ้าเพียงแต่นายเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ "ผู้พันตึ๋ง" อดีตนายทหารที่พัวพันกับขบวนการผู้มีอิทธิพล ทำตามคำสั่งสอนที่ตัวเองมีให้กับนักโทษที่กำลังจะได้รับการพักโทษ ก็อาจไม่ต้องเผชิญกับชะตากรรมแบบนี้อีกครั้ง
เฉลิมชัยเดินเข้าคุกในปี 2549 เพื่อรอการประหารชีวิตตามคำพิพากษาศาลฎีกาในฐานะฆาตกรในคดีสังหารอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร แต่เพียง 9 ปีหลังจากนั้น เฉลิมชัยก็ก้าวออกมาสู่อิสรภาพอีกครั้งในฐานะนักโทษชั้นเยี่ยมที่ได้รับการพักโทษ
เฉลิมชัยเคยได้รับการยกย่องจากกรมราชฑัณท์ให้เป็นนักโทษตัวอย่างที่กลับเนื้อกลับตัว ศึกษาธรรมะอย่างจริงจังและได้รับความไว้วางใจให้อบรมสั่งสอนนักโทษที่กำลังจะพ้นโทษ จึงมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะพ้นโทษก่อนถึงกำหนด
จากโทษประหารชีวิต เฉลิมชัยได้รับการลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต ก่อนจะได้รับการลดหย่อนโทษอย่างต่อเนื่องในเวลาต่อมา 14 ปีคือเวลาทั้งหมดที่เฉลิมชัยต้องคิดคุกนับตั้งแต่คำพิพากษาของศาลชั้นต้น

การตายของนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรในปี 2544 เป็นคดีสะเทือนขวัญคนในสังคมเป็นอย่างมาก และเป็นคดีที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษเพราะผู้ต้องหาเป็นถึงนายทหารยศพันตรีที่รู้จักกันในนาม "ผู้พันตึ๋ง" ซึ่งเป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่ามีความเกี่ยวพันกับกลุ่มอิทธิพล

เบื้องหลังของการที่เฉลิมชัยสามารถก้าวออกมาสู่อิสรภาพในเวลาเพียงไม่กี่ปี แต่ต้องกลับเข้าคุกอีกครั้งเพียงไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากนั้น ทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับระบบราชฑัณท์ของประเทศไทยเฉลิมชัยถูกตำรวจกองปราบจับตัวเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาใกล้บ้านพักที่วังทองหลาง เพียงไม่กี่วันหลังจากทำหน้าที่อบรมนักโทษที่กำลังจะพ้นโทษให้กับกรมราชฑัณท์

นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ยืนยันกับไพร์มไทม์ว่า เฉลิมชัย ทำผิดเงื่อนไขในการพักการลงโทษ การพักโทษเป็นแนวทางปกติเพื่อให้โอกาสผู้ที่ติดคุกกลับคืนสู่สังคมหลังจากได้รับโทษมาระยะหนึ่งแล้ว ถ้านักโทษได้รับโทษมาแล้วอย่างน้อย1 ใน3 และเป็นความผิดครั้งแรก และมีความประพฤติดีก็เข้าเกณฑ์ได้รับพิจารณาพักโทษ
"สมมติเหลือโทษ 5 ปี จะต้องมารายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติทุกเดือน จนกว่าจะครบ 5 ปี ซึ่งเราได้ทำสัญญาในการพักการลงโทษ คือ ถ้าใน 5 ปีนี้ เขาไปทำผิด เช่นออกไปนอกเขต จะต้องบอกว่าจะกลับบ้านไปอยู่ตรงไหน หากออกนอกเขตจะต้องบอกก่อน และต้องไม่ประพฤติเสื่อมเสีย หรือ ไม่ทำความผิดซ้ำอีก ถ้าอย่างใดอย่างหนึ่งผิดสัญญาก็จะถือว่ามีความผิดจะไม่ได้รับการพักการลงโทษ จะต้องกลับไปชดใช้โทษย้อนหลัง คือ เหลือโทษอีก 5 ปี ก็จะต้องชดใช้ในคุกอีก 5 ปี ไม่มีโอกาสได้ออกมาข้างนอก" ชาญเชาวน์ กล่าว

หลังจากได้รับอิสรภาพไม่ถึงหนึ่งปีเฉลิมชัย ได้ละเมิดเงื่อนไขการพักโทษ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยกับ "ไพร์มไทม์" ว่าเฉลิมชัย ออกนอกเขตที่กำหนดไว้ในจังหวัดนนทบุรีโดยไม่ได้รับการอนุญาตหลายครั้ง เจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติยังพบว่า ผู้พันตึ๋งถูกกล่าวหาว่าข่มขู่เรียกเงินจากนักธุรกิจค้าพลอยที่จังหวัดจันทบุรี โดยผู้เสียหายมีหลักฐานเป็นคลิปภาพและเสียงและมีการแจ้งความกับตำรวจ

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า"นักโทษชายรายนี้ ถูกคุมประพฤติจากสำนักงานจังหวัดนนทบุรี ภูมิลำเนาที่แจ้งไว้อยู่ที่จังหวัดนนทบุรี เมื่อใดจะเดินทางออกไปนอกพื้นที่ก็ต้องมีการขออนุญาต ทั้งไปเชียงใหม่เพื่อไปเยี่ยมลูก เราก็อนุญาตเห็นชอบให้ไปเดินทางไป แต่ครั้งนี้ที่ไปเกิดเรื่องเราไม่ได้อนุญาตและไม่ได้ขอ ที่ผ่านมารายงานตัวเดือนละครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ผมเห็นว่าเป็นคดีใหญ่ คดีสำคัญ ผู้คนสนใจ ตนก็เรียกมาพบมารายงานตัว 2-3 ครั้ง ส่วนที่เหลือไปรายงานตัวกับ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติที่จังหวัดนนทบุรี"

พ.ต.อ.ณรัชต์ อธิบดีกรมคุมประพฤติเปิดเผยว่าระหว่างอยู่ในเรือนจำ นายเฉลิมชัยได้ใช้เวลาศึกษาธรรมะจนมีความรู้แตกฉาน และได้อาสาช่วยบรรยายสั่งสอนนักเรียนที่มีปัญหาการทะเลาะวิวาท

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่ออีกว่า "คณะกรรมการของกระทรวงได้พิจารณาว่าเป็นนักโทษชั้นดี ได้ทำคุณงามความดีต่างๆ เหลือโทษอีกพักการลงโทษ ก็มีมติในการ โดยมีเงื่อนไขว่าอีก 33 เดือนที่เหลือ แม้ว่าจะไม่ด้อยู่ในเรือนจำ แต่ก็มีเงื่อนไข คือ ไม่ได้ปล่อยฟรี ยังจะต้องเดินทางมารายงานตัวกับกรมคุมประพฤติ เดือนละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 33 ครั้ง"

พ.ต.อ.ณรัชต์ยืนยันว่านายเฉลิมชัยต้องได้รับโทษที่เหลืออีก 33 เดือนในฐานะนักโทษชั้นเลวโดยไม่มีสิทธิได้รับการลดหย่อนโทษอีกแล้ว และถ้ามีหลักฐานว่าได้กระทำผิดทางอาญาหลังจากได้รับการพักโทษก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายเฉลิมชัย ได้เพิ่มน้ำหนักให้กับแผนของกรมคุมประพฤติที่จะนำเครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring) หรือ อีเอ็ม มาใช้ในการควบคุมประพฤตินักโทษที่ได้รับการพักโทษ

เครื่องมือชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับนาฬิกาข้อมือการถอดสายจะต้องใช้กุญแจ แต่กุญแจดังกล่าวก็เก็บไว้ที่กรมคุมประพฤติ นักโทษที่ได้รับการพักโทษจะต้องอยู่ในเขตที่ได้กำหนดไว้ หากออกนอกเส้นทางเครื่องมือดังกล่าวจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนดังเป็นระยะๆ มาที่กรมคุมประพฤติ

กรมคุมประพฤติได้ทดลองใช้เครื่องมือดังกล่าวมาประมาณ2-3 ปี และพบว่ามีประสิทธิภาพในการติดตามความเคลื่อนของนักโทษ นักโทษที่ถูกติดเครื่องติดตามอิเล็กทรอนิกส์จะถูกห้ามเข้าไปในสถานที่เข้าข่ายเป็นที่อโคจร ห้ามออกจากที่เส้นทางหรือสถานที่ที่กำหนด โดยเฉพาะในเวลากลางคืนจะต้องอยู่ในบ้าน เครื่องมือดังกล่าวยังสามารถตรวจจับความเร็วในการขับขี่รถของเยาวชนที่ถูกควบคุมเรื่องการขับรถแข่งตามท้องถนน

กรมคุมประพฤติยืนยันว่าอุปกรณ์ดังกล่าวถูกใช้งานอยู่ในหลายประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ออสเตรีย และ สเปน และได้ตั้งงบประมาณไว้ 100 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อ 3,000 เครื่อง