กันสาดห้องแถวย่านประชานิเวศน์ถล่ม

เมื่อวันที่ 7 กันยายน ร.ต.อ.ทองพูล เวียงอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุอาคารทรุดตัวและมีระเบียงอาคารพาณิชย์ถล่มมีรถยนต์ของประชาชนเสียหายจำนวนหลายคัน บริเวณหลังตลาดประชานิเวศน์ 1 ถนนรังสฤษดิ์เหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. จึงรายงานให้ไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ ผกก.สน.ประชาชื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม ฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตจตุจักร และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ปลูกติดกันจำนวน 12 คูหา ตั้งแต่บ้านเลขที่ 99/140-151 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุระเบียงกันสาดปูนร่วงหล่นลงมาเป็นจำนวนมาก และพบรถยนต์ของประชาชนได้รับความเสียหายจากเหตุดังกล่าวจำนวน 7 คันประกอบด้วย รถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ ทะเบียน ฌฉ 5086 กรุงเทพมหานคร รถบรรทุกสี่ล้อเล็กอีซูซู สีขาว ทะเบียน ปท 2448 กรุงเทพมหานคร รถกระบะดัสสันสีบอร์นเงิน ทะเบียน 6 ฆ 8787 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ฮอนด้าฟีตสีขาว ทะเบียน 3141 กรุงเทพมหานคร รถกระบะอีซูซุ ดีแมคสีขาว ทะเบียน 1 กศ 9728 กรุงเทพมหานคร รถกระบะดัสสัน สีแดง ทะเบียน 5 ย 8488 กรุงเทพมหานคร และยังมีรถจักรยานยนต์เสียหายจำนวนอีก 2 คัน คือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำเงิน ทะเบียน ฬบข 981 กรุงเทพมหานคร และ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นพื้นที่โดยรอบกันประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เป็นการเร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยสอบสวน น.ส.รัตนะ สติพลัน อายุ 37 ปี แม่ค้าขายดอกไม้สดในตลาดประชานิเวศน์ซึ่งพักอาศัยในอาคารหลังเกิดเหตุเลขที่ 99/145ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขายของในตลาด ตนได้ยินเสียงดังตึง ทีแรกนึกว่าอุบัติเหตุรถชนหน้าตลาด แต่พ่อค้าแม่ค้าต่างตะโกนให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ตึกถล่ม ตนตกใจมาก เพราะแม่ของตนพักอาศัยในบ้าน เลยวิ่งมาดูปรากฏว่าแม่หนีออกจากบ้านไปแล้วต่อมาเวลา 19.00น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง ก่อนเปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งที่เกิดเหตุตนรีบเดินทางมาดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่พักอาศัยอยู่ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีผู้ติดค้างอยู่ภายในตัวอาคาร ขณะนี้ประสานเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเร่งให้การช่วยเหลือตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตนไม่นิ่งนอนใจ และประสานเจ้าหน้าที่โยธาธิการสำนักงานเขตจตุจักรเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารภายในดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการทรุดตัวและถล่มที่แท้จริงต่อไปทั้งนี้อาคารดังกล่าวปลูกมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2525 เป็นเวลา 37 ปีแล้ว โดยเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางสำนักงานเขตจตุจักรมีหนังสือแจ้งมายังประชาชนที่พักอาศัยในอาคารจุดเกิดเหตุ เพื่อให้ย้าย โดยจะทำการปรับปรุงอาคารใหม่ทั้งหมด แต่ยังไม่มีใครย้ายออก เนื่องจากอยู่ระหว่างการฟ้องร้องในชั้นศาลอยู่