ตร.ปูพรมเช็กวงจรปิดล่ามือระเบิด

เมื่อเวลา 02.45 น. วันที่ 12 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายสุวัฒน์ ศรีทุ่งราช อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้าง ซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ระเบิดและได้รับบาดเจ็บ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น. เศษๆ ตนได้มานั่งเล่นบริเวณหน้าร้านจอห์นนี่ ถ.บิณฑบาต ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุระเบิดจุดแรก โดยนั่งที่โต๊ะพูลกับกลุ่มเพื่อน จากนั้นเวลาประมาณ 22.00 น. ก็สังเกตเห็นชายชาวต่างชาติ 2 คน รูปร่างสูงใหญ่ ไว้หนวดเครา ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติก ซ้อนท้ายกันมา วนในซอยด้านหน้าร้าน โดยวนไป-กลับ 2 รอบ ตอนแรกไม่เอะใจคิดว่าเป็นลูกค้าจะมาเที่ยว แต่เนื่องจากคลุกคลีกับชาวต่างชาติที่มาเที่ยวปกติก็จะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ส่วนใหญ่จะเป็นขาประจำ

สำหรับชายต่างชาติที่ว่านี้ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เมื่อทั้งคู่ขับรถจักรยานยนต์ออกไปได้ไม่นานก็เกิดเหตุระเบิดดังสนั่นขึ้นที่หน้าร้านที่ตนนั่งอยู่ ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ ถูกสะเก็ดระเบิดที่น่องด้านซ้าย แต่โชคดีที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะตั้งสติรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ต่อมาเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7( บก.สส.บช.ภ.7) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.หัวหิน ได้ร่วมกันลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อไล่เช็กภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุระเบิดทั้ง 2 จุด ตลอดจนเส้นทางที่ผู้ต้องสงสัยใช้ในการสัญจรขับรถจักรยานยนต์ทั้งไปและกลับ เพื่อหาเบาะแสติดตามตัวผู้ต้องสงสัยตามที่พยานได้ให้ข้อมูล อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พบกล้องวงจรปิด 1 ตัวอยู่ด้านข้างโรงแรมเรนทรี ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นจุดระเบิดจุดที่ 2 สามารถจับภาพขณะเกิดเหตุเวลาตามบันทึกในกล้องเป็นเวลา 22.57 น. วันที่ 11 สิงหาคม พบว่ามีแสงวาบสีฟ้า จากนั้นก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนเกลื่อนเต็มพื้น โดยจุดนี้เป็นจุดที่หญิงชาวไทยได้รับบาดเจ็บก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล แต่เนื่องจากสภาพมืดประกอบกับกล้องอยู่ห่างจุดที่เกิดระเบิดจึงทำให้เห็นไม่ชัดเท่าที่ควร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจุดเกิดเหตุขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่ไว้ บรรยากาศมืด เงียบสนิท เพราะร้านอาหาร ผับ บาร์ ต่างๆ ปิดหมด โดยเจ้าหน้าที่ยังเตือนให้ประชาชนที่อยู่ระแวกจุดเกิดเหตุให้อยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกมาด้านนอกเพื่อความปลอดภัย