
อธิบดีกรมประมง ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ บอกว่า หลังจากมีการโฆษณาชวนเชื่อว่าปลาซักเกอร์เป็นปลาราหู ผู้นำไปปล่อยจะได้โชคลาภ ความเชื่อนี้ทำให้ผู้ใจบุญทั้งหลายต่างยอมควักกระเป๋าเพื่อไปหาซื้อปลาซักเกอร์เพื่อนำมาปล่อย หวังสะเดาะเคราะห์และสร้างบุญกันมากขึ้น ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดเพราะปลาซัคเกอร์ไม่ใช่ปลาราหูแต่เป็นปลากระเบน
ดังนั้น ผู้ที่ซื้อปลาซักเกอร์ไปปล่อยในแม่น้ำแทนที่จะได้บุญกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างปัญหาให้แก่ระบบนิเวศมากกว่า ที่ผ่านมากรมประมงได้รณรงค์ขอความร่วมมือให้คนไทยเลิกปล่อยสัตว์น้ำต่างถิ่นลงแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมทั้งจัดกิจกรรมให้ผู้ที่มีปลาซักเกอร์ไว้ในครอบครองนำมาแลกเป็นพันธุ์ปลาพื้นเมืองของไทยหรือปลาสวยงามได้ และให้หันมาปล่อยสัตว์น้ำพันธุ์ไทยแทนซึ่งได้บุญแน่นอนเพราะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพให้ประเทศ
รองคณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ บอกว่า การปล่อยปลา "ซักเกอร์" ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติเป็นการทำลายระบบนิเวศน์เพราะปลาชนิดนี้หาอาหารโดยวิธีการดูด จะดูดไข่ปลาพันธุ์ไทย ทำให้ปลาและสัตว์พันธุ์ไทยมีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งกระทบต่อเศรษฐกิจเพราะบ่อเลี้ยงปลาของชาวบ้าน จะมีปลาซัคเกอร์มาแทนปลาที่เลี้ยงไว้ขาย แต่ไม่มีผลกระทบด้านสุขภาพเพราะปลาซัคเกอร์กินได้ ไม่มีพิษแต่ไม่เป็นที่นิยม
ปัจจุบันมีปลาซัคเกอร์ซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากอเมริกาใต้แพร่กระจายอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคเหนือตอนล่างมากที่สุด แต่ยังไม่แพร่ไปถึงภาคใต้ เนื่องจากคนที่เลี้ยงไว้และคนที่ต้องการทำบุญนำมาปล่อย
ดร.ธรณ์ มองว่านอกจากการรณรงค์เผยแพร่ความคิดที่ถูกต้องกรณีปลาซัคเกอร์แล้ว การออกกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ต่างถิ่นโดยการควบคุมไม่ให้มีการเพาะเลี้ยง ขายหรือปล่อยปลาซัคเกอร์ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติภายในประเทศ ถือเป็นเรื่องด่วนที่กรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรีบทำเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเช่นกรณีผักตบชวา หอยเชอร์รี่ที่แพร่กระจายเกินกว่าจะควบคุมได้และกระทบต่อระบบนิเวศน์ของไทย