
"๑๔ ปี" แห่งการมรณภาพ "พระอุดมประชานาถ" หรือ "หลวงพ่อเปิ่น" อดีตเจ้าอาวาสวัดบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม (เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๕ เวลา ๑๐.๕๕ น. อายุ ๗๙ ปี พรรษา ๕๔) ที่ลูกศิษย์ขนานนามให้เป็น "เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำนครชัยศรี" แต่พระสงฆ์ที่เป็นลูกศิษย์ยังคงสืบทอดการสักยันต์ตามตำราของหลวงพ่อเปิ่นไว้อย่างสมบูรณ์
การจัดพิธีไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่นได้จัดมาทุกปี ตั้งแต่หลวงพ่อเปิ่นยังมีชีวิตอยู่ และจะมีลูกศิษย์มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาพิธีไหว้ครูสักยันต์ ของวัดบางพระก็ยังไม่สิ้นมนต์ขลัง แม้ว่าหลวงพ่อเปิ่น จะละสังขารไป ๑๔ ปีแล้ว แต่ลูกศิษย์นับหมื่นจากทั่วสารทิศยังคงแห่รวมพิธีไหว้ครูกัน
ในวันไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น ถือเป็นวันชุมนุมลูกศิษย์จากทั่วทุกสารทิศ ที่ยังคงแห่ร่วมพิธีไหว้ในวันเสาร์ของเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคม เป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์เป็นสำคัญ โดย ในปี พ.ศ.๒๕๕๙ นี้ "งานไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น" จัดขึ้นวันเสาร์ที่ ๑๙ มีนาคม เวลา ๐๙.๓๙ น.
สาเหตุที่ทำพิธีกันในวันเสาร์ บูรพาจารย์กล่าวไว้ว่า วันเสาร์เป็นวันที่แข็งที่สุด พิธีการอันใดที่วัดจัดขึ้นในวันนี้ จะมีกฤตยานุภาพเข้มแข็งมาก วันบูชาครูเป็นวันที่เสมือนหนึ่งเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที น้อมระลึกเคารพนับถือบุญคุณของบูรพาจารย์ ครูบาอาจารย์ คณาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ วิชาไสยเวท คาถาอาคม คัมภีร์ต่างๆ ให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตั้งมั่นกระทำแต่ความดี
พิธีไหว้ครูหรือบูชาครูของหลวงพ่อเปิ่น เป็นพิธีของพระเกจิอาจารย์ที่บูชาบูรพาจารย์ บวงสรวงพรหม เทพยดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ กล่าวกันว่าระหว่างที่องค์ท่านบริกรรมพระคาถา วิปัสสนากรรมฐานระลึกถึงครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ องค์ต่างๆ จะเข้าประทับหมุนเวียนกันไปนับเป็นจำนวนพันๆ ภาค อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นองค์พ่อแก่ฤาษี หรือบูรพาจารย์ พระอาจารย์ต่างๆ ตลอดจนเทพเทวดาเบื้องบน ก็มาร่วมพิธีให้เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในคืนก่อนวันไหว้ครู (คืนวันศุกร์ที่ ๑๑มีนาคม ๒๕๕๙) พระที่ทำหน้าที่สักยันต์ของวัด รวมทั้งลูกศิษย์ของหลวงพ่อเปิ่นที่ได้รับการครอบครูสักยันต์ ต้องนั่งสักยันต์ตั้งแต่เช้าวันศุกร์ บางรูปบางคนต้องนั่งสักยันต์ไปถึงรุ่งเช้าของวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันไหว้ครู โดยผู้ที่มาสักยันต์อยากได้ลายยันต์ไปเข้าพิธีในวันนี้
ยิ่งใกล้เวลา ๐๙.๓๙ น. บริเวณลานโล่งด้านหน้ารูปหล่อหลวงพ่อเปิ่น ลูกศิษย์พากันนำพานดอกไม้มาบูชาครู ส่วนภายในวงสายสิญจน์ ผู้คนนั่งเบียดเสียดแออัดกันเต็มสนามรอบสายสิญจน์ที่ดูแคบไปถนัดใจ
ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่น่าสนใจในวันไหว้ครู คือ ศิษย์คนใดสักยันต์รูปสัตว์ชนิดใดก็จะแสดงอาการของสัตว์ชนิดนั้นๆ ตลอดช่วงพิธีไหว้ครู ซึ่งเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของผู้ที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้มีคติความเชื่อว่า คนที่มีอาการของขึ้น ส่วนใหญ่มักเกิดกับคนที่มีความเลื่อมใส จิตใจตั้งมั่นยึดมั่นในครูบาอาจารย์ อ่อนไหวง่าย เมื่อหลับตาระลึกถึงครูบาอาจารย์ท่าน พวกที่สักอักขระที่เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ เช่น ผู้ที่สักรูปเสือเผ่น ก็กางเล็บกระโดดโจนทะยานวิ่งเข้าหาหลวงพ่อหน้าปะรำพิธี
ผู้ที่สักเป็นรูปหนุมานก็กระโดดโลดเต้นตีลังกาเข้าหา ที่สักหมูป่าก็แผดเสียงร้องก้อง วิ่งเข้าหาหลวงพ่อ บนพื้นดินก็มีคนคลานเลื้อยเหมือนปลาไหล บางคนของขึ้น ก็ทำท่าทางยกมือเหมือนถือไม้เท้าเดินกระย่องกระแย่ง ลักษณะเหมือนฤาษี
ครั้นได้ฤกษ์ พิธีเริ่มขึ้นเวลา ๐๙.๓๙ น. พระครูอนุกูลพิศาลกิจ หรือ หลวงพ่อสำอางค์ เจ้าอาวาสวัดบางพระ ได้เดินผ่านหมู่ลูกศิษย์ที่พนมมือกราบไหว้ตลอดระยะทาง จนขึ้นสู่ปะรำพิธี หมู่ลูกศิษย์ที่อยู่ในวงสายสิญจน์บางคนก็เกิดอาการที่เรียกว่า "ของขึ้น"
เมื่อแต่ละคนมีอาการของขึ้นก็จะวิ่งมาที่หน้าพิธีแต่ทางวัดได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้คอยดูแลจำนวนมากและช่วยแก้พวกที่ของขึ้น
วิธีแก้ของขึ้นก็โดยการใช้ 2 มือ ตบที่หูเบาๆ หรือใช้มือลูบหน้าตรงจมูก หรือยกขาให้สูงกว่าตัว การไม่ให้ของขึ้นจะเตือนสติให้หายใจลึกๆ ให้ลืมตาไม่ให้หลับตา ซึ่งบางคนไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง
หลังจากนั้นก็มีการปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ โดยหลวงพ่อสำอางค์ และพระเกจิที่อยู่บนปรัมพิธีเป็นผู้ปะพรมโดยใช้ปั้มน้ำในการฉีดน้ำมนต์เนื่องจากมีคนจำนวนมากเมื่อเริ่มพรมน้ำมนต์บรรดาลูกศิษย์ได้กรูกันเข้ามาที่หน้าพิธี ซึ่งหลายๆคนเมื่อโดนน้ำมนต์ก็มีอาการของขึ้นกันต่างส่งเสียงร้องคำรามจนลั่นวัด ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงในการประพรมน้ำมนต์ให้บรรดาลูกศิษย์จนหมด
เมื่องานพิธีบูชาครู บูรพาจารย์สิ้นสุดลงแล้ว ลูกศิษย์บางคนก็เข้ามาขอเครื่องบายศรี ผลไม้ต่างๆ อาหารคาวหวานมากินเพื่อเป็นสิริมงคล พอหลวงพ่อลงมาจากปะรำพิธีกลับมาที่กุฏิ เครื่องบูชาเซ่นสังเวยบนปะรำพิธีก็หายวับไปกับตาไม่มีอะไรเหลือ แม้แต่โอ่งน้ำมนต์ที่มีน้ำมนต์เต็มโอ่งก็แห้งขอด งานบูชาครูก็เป็นอันจบสิ้นพิธี ท่ามกลางความยินดีปรีดาของเหล่าลูกศิษย์ที่อิ่มเอิบไปด้วยแรงบุญอันเป็นสิ่งที่เป็นมงคลสูงสุดที่เขาเหล่านั้นได้รับ เหลือไว้แต่ตำนานพิธีบูชาครูอันเข้มขลัง