จับผู้ต้องหา ค้ายาแลกปืน
เชียงใหม่-ตำรวจภูธรภาค5 รวบเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ได้ผู้ต้องหา 10 ราย ใช้อาวุธปืนสงครามแลกเปลี่ยน ยึดยาบ้า 398,000 ไอซ์ 3 กก.ปืนสงคราม10 กระบอก อีกรายจับดาบตำรวจค้ายา ยึดยาบ้า 180,000 เม็ด
โดยคดีที่1สามารถจับกุม 1.นายภูมิพิพัฒน์ อินทร์ประดิษฐ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141 ม.15 ต.สันทราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่2.นายประทีป สร้อยทรัพย์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 ม.1 ต.ทรัพย์ไม้แดง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ 3.นายสมศักดิ์ พูนผล อายุ39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 ม.1 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา 4.นายณัฏฐ์กร นนท์สมบูรณ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/49 ต.ขลุง อ.ขลุง จ.จันทบุรี 5.นายสังวาล สาสะเน อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/2 ม.3 ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี 6.นายสมพร วัดช้าง อายุ 45ปี อยู่บ้านเลขที่ 300 ม.2ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี 7.นายสุดเขตต์ สุริยวัฒนานนท์ อายุ 25 ปีอยู่บ้านเลขที่ 67 ม.11 ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ ลพบุรี 8.นายธีระยุทธ ขำวงษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142/1ม.1 ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี 9.นายสราญ บุญเหลือ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 ม.13 ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี 10.นายบุญฤิทธิ์ ทรงเจริญ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่28 ม.9 ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
พร้อมด้วยของกลางประกอบด้วยยาบ้าจำนวน398,000 เม็ด ยาไอซ์ 3 กก. อาวุธปืน ปลย.M16 จำนวน 5 กระบอก อาวุธปืน ปลย.AK47 จำนวน 5 กระบอก รถยนต์ จำนวน 4 คัน โทรศััพท์มือถือ จำนวน 13 เครื่อง บัตรอิเลคทรอนิกส์จำนวน 4 บัตร และเงินสดจำนวน 23,000 บาท
พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าจะมีการเคลื่อนไหวของเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่โดยจะมีการซื้อขายยาเสพติดพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงกลางดึกโดยจากการเฝ้าติดตามสามารถจับกุมนายภูมิพิพัฒน์ ได้ที่บริเวณในซอยทางเข้าโรงแรมbises-resortเลขที่156 ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ขณะที่กำลังรอซื้อขายยาเสพติดอยู่ในรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสันเทียน่า สีขาว ทะเบียน ชห7931กรุงเทพมหานครพร้อมด้วยของกลางยาบ้า398,000เม็ดและยาไอซ์ 3 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้ทันที
เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้เป็นกลุ่มเครือขายยาเสพติดรายสำคัญโดยจะมีการสั่งซื้อยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านและนำเข้ามาทางชายแดนติดกับพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่โดยจะทำการซื้อขายในลักษณะจะนำยาบ้าไปวางตามจุดที่ตกลงกันไว้และจะให้เครือข่ายมารับเพื่อกระจายไปยังกลุ่มเครือข่ายต่างๆ
ทั้งนี้การจับกุมนายภูมิพิพัฒน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค5 ได้มีการบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายสามารถขยายผลการจับกุมไปยังผู้ร่วมขบวนการนายประทีปและพรรคพวคได้ที่บริเวณถนนทางเข้าสนามกอล์ฟไพน์เฮิร์ท ม.17 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีพร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนสงครามจำนวน10 กระบอก โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการโทรศัพท์นัดแนะให้นายประทีปและพรรพวกมายังจุดนัดพบโดยนายประทีปได้นัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำยาเสพติดใส่รถกระบะไปจอดยังจุดนัดพบโดยเมื่อหากได้รับยาเสพติดแล้วนายประทีปจะนำของกลางอาวุธปืนมาส่งมอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการวางกำลังเฝ้าสังเกตุการณ์กระทั่งนายประทีปและพรรพวกมาถึงและทำการแลกเปลี่ยนของกลางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันที
อย่างไรก็ตามพฤติกรรมของผู้ต้องหากลุ่มนี้มีการซื้อขายยาเสพติดโดยการที่จะนำเอาอาวุธปืนสงครามมาส่งมอบเพื่อแลกเปลี่ยนกับยาเสพติดเพื่อที่จะนำยาเสพติดไปกระจายสู่กลลุ่มเครือข่ายในพื้นที่โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวทัั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้กลุ่มเครือข่ายนี้ถือเป็นอันตรายต่อสังคมอย่างมากเนื่องจากมีวิธีการแลกเปลี่ยนยาเสพติดโดยใช้อาวุธปืนสงครามเป็นของกลาง โดยเจ้าหน้าที่จะทำการติดตามหาแหล่งที่มาของอาวุธปืนสงครามเพื่อขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ต่อไป
ส่วนคดีที่ 2สามารถจับกุมผู้ต้องหาคือด.ต.เสรี ดวงใจประเสิริฐ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 261/16 ม.5 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย นายอิทธิพล จันทร์ตา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่258 ม.23 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงรายน.ส.อภิญพัชร์ จิราพัชรปิยวัชร อายุ 28 ปีอยู่บ้านเลขที่ 254/1 ม.8 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 180,000 เม็ด อาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก และรถเก๋งจำนวน 2 คัน
พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติดที่บริเวณห้างสรรพสินค้าเอดิสัน จ.เชียงราย จึงได้ทำการติดตามเพื่อรอจับกุม กระทั่งเวลาประมาณ 24.00 น. พบรถยนต์ต้องสงสัยรถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเล็ตสีส้ม ทะเบียนกพ4843 เชียงรายขับมายังบริเวณที่เกิดเหตุจากนั้นได้ขับเข้ามาจอดด้านหลังรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีเทาทะเบียน ขง- 6924 เชียงใหม่ ที่ได้จอดรออยู่ในบริเวณดังกล่าวโดยภายในรถไม่มีคนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าขอตรวจค้น
จากการตรวจค้นรถยนต์เชฟโรเล็ต พบผู้ต้องหาทั้ง3 คนโดยที่นายอิทธิพลกำลังจะลงจากรถเพื่อไปขับรถเก๋งวีออสที่จอดทิ้งไว้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในรถเก๋งเชฟโรเล็ตพบกระเป๋าเป้บรรจุยาเสพติดอยู่ด้านหลังกระโปรงรถจำนวน 2 ใบและอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก
สำหรับการดำเนินการจับกุมในคดีนี้แม้ผู้ต้องหาจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีการกระทำผิดกฎหมายจำเป็นที่จะต้องควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน ทั้งนีี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเพื่อขยายผลตรวจทรัพย์ทั้งหมดและหาเครือข่ายยาเสพติดต่อไปพล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ กล่าว