
มธ.ท่าพระจันทร์ - 11 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องจารุพงษ์ ทองสินธุ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นักวิชาการ และประชาชน นำโดย นางสาวสาวตรี สุขศรี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร มธ. , นายรังสิมัน โรม ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ , นายธนาพล อิ๋วสกุล นักเขียนสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน และนางพะเยาว์ อัคฮาด ประชาชน ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการเรียกบุคคลเข้าพบ หรือส่งทหารไปพบบุคคลโดยระบุว่า ในฐานะผู้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารติดตามตัว และในฐานะประชาชนผู้ไม่เคยเห็นด้วย ทั้งกับการรัฐประหาร และกับการคุมประพฤติหรือปฎิบัติการทางจิตวิทยาที่ทำกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ราวกับเขาเป็นอาชญากร
กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ระบุว่าด้วยเหตุดังกล่าวจึงขอเรียกร้อง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กองทัพและผู้เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ 1.หยุดเรียกบุคคลใดๆเข้ารายงานตัวไม่ว่า ณ สถานที่ใด หรือหยุดส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปพบบุคคลเหล่านั้นที่บ้าน บริษัทห้างร้าน หรือที่ทำงาน เว้นแต่มีหมายเรียก หรือหมายจับของศาลโดยชอบด้วยกฎหมาย 2.หยุดการสอดแนมชีวิตส่วนตัว การคุมประพฤติ หรือปฎิบัติการทางจิตวิทยาใดๆ กับบุคคลที่ไม่ได้ถูกศาลพิพากษาถึงที่สุด โดยกระบวนการยุติธรรมที่ได้มาตรฐานสากลว่าเป็นผู้กระทำความผิดแล้ว และ3.เรียกทหารกลับเข้ากรมกอง และปฎิบัติภารกิจจริงๆของตนตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ การดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมทั้งการรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ เป็นไปตามกลไกปกติ และตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ด้านนายธนาพลกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนนั้นในทุกๆเดือนจะมีทหารแต่งเครื่องแบบครบชุด ไปเยี่ยมที่บ้าน แม้ว่าตัวเจ้าหน้าที่กับตนเองจะไม่มีปัญหาอะไรกัน อีกทั้งยังพูดคุยกันตามปกติ แต่ในฐานะพลเรือน การที่มีทหารเข้ามาในพื้นที่ ก็ทำให้รู้สึกไม่ปกติ และจุดเป็นจุดสนใจของเพื่อนบ้าน เบื้องต้นจำนวนผู้ที่ถูกเรียกไปปรับทัศนคติมีจำนวนกว่า 600 คน รวมถึงครอบครัวของพวกเขาก็ได้รับผลกระด้วย
ขณะที่นายรังสิมัน กล่าวว่า ตอนนี้เราอยู่ในโลกปัจจุบัน ที่มีกฎหมายลงโทษผู้ทำผิดโดยตรง กล่าวคือใครทำผิดก็ต้องเล่นงานคนนั้น แต่การดำเนินงานของกองทัพมีลักษณะคุกคามคนในครอบครัว แล้วจะเรียกว่าทหารเข้ามาเพื่อปฏิรูปและรักษากฎหมายได้อย่างไร การข่มขู่คุกคามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร อีกทั้งการทำเช่นนี้ยังจะสร้างภาพลักษณ์ด้านลบกับกองทัพ ทั้งนี้ตนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ตนก็ยินดีได้รับผลกระทบนั้น และถ้าทางทหารอยากจะคุยกับกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ก็พร้อมยินดีคุยด้วยทุกเมื่อ ขณะที่น.ส.สาวตรี กล่าวว่า การออกแถลงการครั้งนี้ ไม่ได้ต่อต้านทหารโดยตรง เราไม่ได้สนใจว่าทหารจะมาดีหรือพูดจาสุภาพหรือไม่ แต่ประเด็นที่สนใจก็คือ ทำไมต้องส่งทหารมาหา ซึ่งในทางกฎหมาย ผู้ที่ถูกคุมความประพฤติหรือติดตาม จะต้องได้รับการพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ไม่ใช่ส่งมาหา เหมือนเป็นหน้าที่ของทหารประจำทั่วๆไป อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังรวบรวมรายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เพื่อยื่นหนังสือเปิดผนึกไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป โดยรายชื่อจะครอบคลุมถึงบุคคลที่ได้รับผลกระทบในต่างประเทศ รวมถึงบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐ