svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับแก๊งขายปืนผ่านเฟซบุ๊ก

23 กันยายน 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คอมมานโดบุกจับแก๊งขายปืนเถื่อนผ่านเฟซบุ๊ก ค้นบ้าน 3 หลัง ใน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบของกลางอื้อ เครื่องกระสุนเกือบ 500 นัด ตำรวจตามแกะรอยนานนับเดือน เจ้าตัวอ้างชอบสะสม เผยรับซ่อมปืนมีความรู้จากอินเตอร์เน็ต ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเร่งขยายผลคนร่วมขบวนการซื้อ - ขาย ระบุต้องเช็คประวัติปืนเคยใช้ก่อเหตุหรือไม่




เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 กันยายน พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเสริฐพัฒนาดี พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รรท.ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.วชิรา ยาวไทยสงค์ สว.กก.ปพ.บก.ป.



แถลงผลจับกุมนายวิทยา พากล้า อายุ 36 ปี นางพิพัฒน์พากล้า อายุ 35 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันและนายสุรสิทธิ์ คชสิทธิ์ อายุ 32 ปีพร้อมของกลาง อาวุธปืนสงครามเป็นปืนกลมือเอ็ม 3 ขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุนปืน อาวุธปืนขนาด 11 มม. จำนวน 3 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนปากกา) ขนาด .22 มม. จำนวน 2 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม. ,ขนาด .45 มม. ขนาด .38 มม. ขนาด .22 มม. ขนาด .380 มม. กระสุนปืนเอ็ม 16 สุนปืนอาก้า และกระสุนปืนลูกซองรวม 449 นัด รวมทั้งเครื่องกระสุนต่างๆที่ยังไม่ได้ตรวจสอบอีกจำนวนหนึ่งวิทยุสื่อสาร 4 ตัว เสื้อเกราะ และกล่องพัสดุไปรษณีย์ขนาดต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้จากบ้านพัก 3 หลัง ในพื้นที่ อ.ธัญบุรี และ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี



พล.ต.ต.อัคราเดช กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากชุดสืบสวน กก.ปพ.บก.ป. หรือหน่วยคอมมานโด ได้สืบทราบว่ามีการลักลอบติดต่อซื้อขายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และอาวุธสงครามหลายชนิด ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ซึ่งมีการประกาศขายผ่านผู้ทีใช้ชื่อว่า Kongkiad Channee , ชาญณรงค์ พงษ์สุวรรณ และ นักรบแดนอีสานใต้ไร้เงา



จึงเร่งสืบสวนติดตาม โดยใช้เวลากว่า 1 เดือนในการแกะรอย กระทั่งพบว่ามีการใช้บ้านพัก 3 แห่ง ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ในการกระทำความผิด เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนเป็นที่แน่ชัดแล้ว จึงขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าตรวจค้นเป้าหมายรวม 3 จุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา




การตรวจค้นจุดแรกมีกำลังตำรวจ กก.ปพ.บก.ป. หรือ คอมมานโด นำหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 749/2558 ลงวันที่ 21 ก.ย. 2558 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 109/401 หมู่บ้านพรธิสาร 5 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี พบนางพิพัฒน์ เป็นเจ้าของบ้าน พร้อมของกลางปืนและอาวุธสงครามของกลางชนิดต่างๆ จากนั้นในเวลาต่อมา นายวิทยา ได้แสดงตัวว่าเป็นผู้ครอบครองอาวุธปืนและอาวุธสงครามดังกล่าวจึงมีการตรวจสอบที่มาที่ไป ก่อนยึดไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ป.



สำหรับจุดที่สองเจ้าหน้าที่นำหมายศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 750/2558 ลงวันที่ 21 ก.ย. 2558 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 109/393 หมู่บ้านพรธิสาร 5 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี ไม่พบผู้แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเชิญประธานชุมชนนำตรวจค้น พบอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางหลายรายการ




เบื้องต้นพบเอกสารระบุชื่อนายอธิษฐ์ ตันติสิริเลิศ และบัญชีธนาคาร จึงยึดทั้งหมดไว้ตรวจสอบ อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบว่า นายอธิษฐ์ มีหมายจับติดตัวอยู่ 2 หมาย ในคดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ท้องที่ สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ และความผิดเกี่ยวกับการนำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ท้องที่ สภ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์



ส่วนจุดที่สามกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 748/2558 ลงวันที่ 21 ก.ย. 2558 ตรวจค้นบ้านเลขที่ 24/78 หมู่บ้านเบญจพฤกษ์ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ. ปทุมธานี โดยพบนายสุรสิทธิ์ แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน นำเข้าตรวจค้นภายในบ้าน พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนของกลาง จึงยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดี




สอบสวนนายวิทยา และนายสุรสิทธิ์ ให้การรับสารภาพ ขณะที่นางพิพัฒน์ ให้การปฏิเสธ โดยนายวิทยาให้การอ้างว่า ทำงานเป็นพนักงานขับรถขนขยะของสำนักงานเขตสาทร และมีความชื่นชอบสะสมอาวุธปืนอยู่แล้ว จึงหาซื้อมาเก็บสะสมรวมทั้งเสื้อเกราะก็เก็บได้ระหว่างไปเก็บขยะในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองก่อนหน้านี้




โดยช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้ถ่ายรูปอาวุธของตนนำไปโพสในเฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนจะมีผู้ที่สนใจเป็นนักเรียนช่างกลใน กทม. มาติดต่อขอซื้อปืนปากกาของตน ในราคากระบอกละ 800 บาทซึ่งตนได้ตกลงขายไป 2 กระบอกเท่านั้น




ส่วนอาวุธปืนสงครามนั้นได้หาซื้อมาจากผู้ค้าบริเวณชายแดน จ.สุรินทร์โดยมีเก็บสะสมไว้ และหากกระบอกไหนเสีย ก็จะติดต่อให้นายสุรสิทธิ์ นำไปซ่อมขณะเดียวกันยังมีการรับซ่อมให้กับผู้ที่รู้จักและติดต่อกันทางเฟซบุ๊ก



นายวิทยา ให้การอีกว่า สำหรับอาวุธปืนส่วนตัวที่เก็บสะสมไว้ยืนยันว่า ไม่เคยนำไปใช้ก่อเหตุที่ใด หรือมีปัญหาขัดแย้งกับใคร มีเพียงนำอาวุธปืนไปใช้ซ้อมยิงตามสนามยิงปืนต่างๆ ใน กทม. โดยหาซื้อกระสุนปืนจากสนามยิงปืนแต่ละแห่ง ส่วนกล่องพัสดุไปรษณีย์นั้น ตนใช้สั่งซื้อเครื่องเสียงและพระเครื่องไม่ได้ใช้สำหรับส่งขายอาวุธปืนให้กับลูกค้าตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด




ด้านนายสุรสิทธิ์ ให้การว่าได้ศึกษาวิธีการซ่อมอาวุธปืนทางอินเตอร์เน็ต จนมีความรู้และสามารถซ่อมปืนได้โดยที่ผ่านมา นายวิทยา รวมทั้งผู้ที่รู้จักติดต่อกันผ่านทางเฟซบุ๊ก จะนำปืนมาให้ตนซ่อม ซึ่งจะคิดราคาตามแต่ความยากง่ายในการซ่อมอาวุธปืนแต่ละชนิด




ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาวุธปืนทั้งหมดถูกนำไปใช่ก่อเหตุที่ใดหรือไม่รวมทั้งมีการติดต่อขายปืนไปให้กับผู้ใด ก่อนจะติดตามอาวุธปืนที่มีการซื้อขายและจัดส่งไปแล้ว พร้อมทั้งติดตามตัวนายอธิษฐ์ ที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดี




เบื้องต้นดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 3 ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้ซึ่งยุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะ) โดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป

logoline