ที่เกิดเหตุอยู่ห่างทางขึ้นลงสถานีบีทีเอสสะพานตากสิน ประมาณ 50 เมตร นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้โป๊ะท่าเรือสาทรซึ่งมีประชาชนสัญจรผ่านจำนวนมากตลอดทั้งวัน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาตินับร้อยคนกำลังมุงดูร่องรอยคราบน้ำสาดกระเซ็นเต็มตอม่อสิ่งปลูกสร้าง และทางเดินตรงสะพานบริเวณโป๊ะท่าเรือจนเปียกทั่วพื้นที่ นอกจากนั้นยังพบสะเก็ดระเบิดเป็นลูกเหล็กทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 มิลลิเมตร กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นกว่า 20 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงกั้นพื้นที่ไว้ และกันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากจุดเกิดเหตุ ก่อนเก็บรวบรวมรายละเอียดวัตถุพยานที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นางรติษา เอี่ยมละออ อายุ 36 ปี แม่ค้าเสื้อผ้าบริเวณทางขึ้นสถานีบีทีเอสสะพานตากสิน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.00 น.กำลังขายของอยู่ตรงใกล้จุดเกิดเหตุห่างออกมาราว 30 เมตร ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นจนหูอื้อ 1 ครั้ง โดยเสียงดังมาจากในน้ำตรงโป๊ะท่าเรือสาทร เมื่อหันไปดูพบน้ำกระจายขึ้นมาสาดสิ่งปลูกสร้างและนักท่องเที่ยวจนตัวเปียกไปหลายคน ด้วยความตกใจตนจึงรีบวิ่งหนีตายออกมาทางถนนเจริญกรุงเพื่อตั้งหลักพร้อมกับชาวบ้านอีกหลายคน
พอตั้งสติได้ก็รีบโทรศัพท์แจ้งที่เบอร์ 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่เหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และตอนนี้ยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ นางรติษา กล่าว
มีรายงานว่า สำหรับแนวทางการติดตามหาตัวคนร้ายในคดีนี้นั้นพบว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานฝ่ายทหารที่ดูแลพื้นที่ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ฝั่งมุ่งหน้าแยกวิทยุ และกล้องวงจรปิดบนสถานีบีทีเอสสะพานตากสิน โดยในเบื้องต้นพบภาพน้ำกระจายจากแรงระเบิดเมื่อเวลา 12.59 น. แต่ยังไม่พบภาพคนร้ายที่โยนวัตถุระเบิดจากสะพานสู่แม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าต้องใช้เวลาไล่กล้องวงจรปิดอีกสักระยะ อย่างไรก็ตามขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำเพื่อช่วยงมหาหลักฐานเพิ่มเติมบริเวณใต้โป๊ะท่าเรือสาทรแล้วเพื่อนำมาระบุชนิดระเบิดและเป็นเบาะแสติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ขอบคุณคลิปจากกลุ่มคนอาสา กู้ชีพ กู้ภัย Thailandภาพโดย ประเสริฐ เทพศรี