"มัลลิกา"ควงสามีโร่แจ้ง"ปอท." เอาผิดพวกแพร่คลิปเพศสัมพันธ์

เมื่อเวลา10.00 น.วันที่ 9 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ซ.นาคนิวาส 34 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. อดีต รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมสามีนางมัลลิกาและนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ เข้าพบ พ.ต.อ.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบก.ปอท. แจ้งความให้ดำเนินคดีกับพวกหมิ่นประมาท ซึ่งเป็นขบวนการเผยแพร่คลิปเคลื่อนไหวการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงแล้วลงข้อความชี้นำว่าเป็นนางมัลลิกากับสามีทำให้เสื่อมเสีย ทางระบบคอมพิวเตอร์ โดยนำหลักฐานเป็นคลิปดังกล่าว และหนังสือเอกสารมีความหนา 25 หน้า เพื่อใช้ประกอบดำเนินคดี
นางมัลลิกา อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าคลิปอนาจารชายหญิงมีเพศสัมพันธ์ ถูกเผยแพร่ ตั้งแต่ปลายปี 57 ในระบบคอมพิวเตอร์ โซเซียล เน็ตเวิล์ด แต่ทุกคนรู้ว่าไม่ใช้ตนกับสามี สื่อทุกสำนักเชื่อว่ามีการตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่ จึงไม่มีข่าวเรื่องนี้ออกมา แต่คนที่เอาคลิปมาโพตส์ยังมีการเผยแพร่คลิปนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีข้อความชี้นำว่าเป็นตน ทำให้ตนและครอบครัวเสียหาย รวมทั้งตนที่มีฐานะเป็น รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียง นอกจากนี้ตนยังเป็นประธานชมรมต่อต้านเว็บหมิ่นสถาบัน คนที่ทำต้องการให้ตนขาดความเชื่อถือ สิ่งที่เกิดขึ้น เชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ และให้มีผลทางด้านการเมืองด้วย
อดีต รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวอีกว่าได้ตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดครั้งนี้ ที่โพสต์ข้อความหมิ่น และส่งภาพลามกหมิ่นประมาท มี 1.บุคคลผู้ซึ่งใช้ชื่อไลน์ ว่า y00thaporn ซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่มไลน์ ในชื่อกลุ่ม วปอ.48 2.บุคคลที่ใช้ว่า ajchariyakor n ซึ่งเป็นสามชิกในกลุ่มไลน์ Gentle er 31 3.บุคคลที่ใช้ชื่อว่าอิทธพล สุขแป้น และ 4.บุคคลที่ใช้ชื่อว่า csilr texas
ด้านนายนิติธร ทนายความกล่าวว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 อันมีลักษณะลามก อนาจาร อันเป็นเท็จ ซึ่งข้อมูลที่ปรากฏภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อเติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด ทำให้เกิดความเสียหาย ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง โดยข้อมูลดังกล่าวประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ และความผิดฐานหมิ่นประมาท
พ.ต.อ.ปรัชญา รอง ผบก.ปอท. กล่าวว่าหลังจากนี้จะรับแจ้งความไว้ โดยมอบหมายให้ ร.ต.ท.บัญชา ศรีตัญญู พนักงานสอบสวน กก. 1 บก.ปอท.เป็นผู้ดำเนินการสอบสวน รวบรวมหลักฐานเพื่อนำคนผิด หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป