อดีตผู้บริหาร สจล. พร้อมให้สอบเส้นทางเงิน

เมื่อวานนี้ (5มค.2558) ศ.ดร.ถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พร้อมด้วย นายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อดีตผู้ช่วยอธิการบดีฯ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ถ้อยคำในคดีลักเงินกองกลางของสถาบันฯ โดย ศ.ดร.ถวิล ระบุว่า ช่วงที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดี น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ก็ดำรงตำแหน่ง ผอ.ส่วนการคลังของสถาบันฯ อยู่แล้ว โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในส่วนของเงินคงคลังนั้น จำไม่ได้ว่ามีการเซ็นต์ออกไปเท่าไหร่ เนื่องจากตนออกจากตำแหน่งมานานแล้ว คงต้องให้ผู้บริหารชุดปัจจุบันได้ทำรายการต่างๆ ออกมาให้
และกรณีที่สถาบันฯ ออกนอกระบบ แล้วมีรายได้เข้าสถาบันฯ มากขึ้นหรือไม่นั้น ตรงนี้ก็เหมือนเงินต่อเงิน เพราะเวลามีเงินเข้ามา และนำออกไปฝาก ก็จะได้ดอกเบี้ยเยอะ ประกอบกับการขยายตัวของสถาบันฯ และนักศึกษาที่มีจำนวนมากขึ้น เงินคงคลังก็จะเหลือ โดยเฉลี่ยปีละ 5% ที่จะกันไว้ ก็จะได้เพิ่มสักประมาณปีละ 5% ต่อปี
สำหรับกรณีการเบิกถอนเงิน เพื่อไปนำเข้าบัญชีธนาคารแห่งใหม่ ซึ่งได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่านั้น ทางผู้ที่มีอำนาจในการพิจารณา จะต้องร่วมรับทราบ และให้ความเห็นชอบด้วย ส่วนเงินที่สูญหายไปนั้น ตนรู้สึกเสียดาย แต่ยืนยันว่าช่วงที่ตนดำรงตำแหน่ง ได้ตรวจสอบตามเอกสารแล้ว โดยไม่พบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นจึงลงนามไป ซึ่งเงินคงคลังนั้น เป็นเงินที่จะนำมาเบิกจ่าย เมื่อมีกรณีฉุกเฉิน หรือเพื่อนำมาใช้ทำประโยชน์ให้กับสถาบันฯ ส่วนเงินที่จะเบิกออกมา ก็ไม่ได้จำกัดวงเงิน แล้วแต่เงื่อนไขที่จะนำเงินออกมา
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (6มค) อดีตผู้บริหาร สจล.อีก 2 ท่าน อาจจะเดินทางมาให้ถ้อยคำ การบริหารงานในสมัยที่ดำรงตำแหน่งต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เหมือนกับ ศ.ดร.ถวิล และ นายสรรพสิทธิ์ ด้วยเช่นกัน โดยบุคคลทั้ง 2 คือ รศ.ดร.กิตติ ตีรเศรษฐ อดีตอธิการบดี สจล. รวมทั้ง ผศ.สมศักดิ์ คูหาสวรรค์เวช อดีตผู้ช่วยอธิการบดี สจล. ที่ได้ดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2555 ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยัง รศ.ดร.กิตติ ก็ได้รับทราบว่า ทั้ง รศ.ดร.กิตติ และ ผศ.สมศักดิ์ ยังไม่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เนื่องจากติดภารกิจ และยังไม่ได้รับการประสานติดต่อจากพนักงานสอบสวน แต่หากมีการเชิญตัวเข้าให้ข้อมูล ก็พร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่