จับลูกสาวประธานโคเรียน แอร์ หลังไม่พอใจเรื่องถั่ว

คณะอัยการของเกาหลีใต้ ได้จับกุมโช ฮยอน-อาห์ อดีตผู้บริหารโคเรียน แอร์ ไลน์ส โค. เจ้าของสายการบินโคเรียน แอร์ ในข้อหาเป็นภัยต่อความปลอดภัยของเที่ยวบิน ด้วยการทำให้เที่ยวบินล่าช้า เพียงเพราะไม่พอใจวิธีการเสิร์ฟถั่วแม็คคาเดเมียของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

โชวัย 40 เป็นบุตรสาวคนโตของนายโช ยอง-โฮ ประธานและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารหรือ CEO ของโคเรียน แอร์ ต้องเผชิญกับกระแสความไม่พอใจของสาธารณชนเนื่องจากเธอทำให้เที่ยวบิน KE 086 เส้นทางจากนิวยอร์ค-อินชอน ที่กำลังเตรียมจะขึ้นบิน ต้องหันหัวกลับไปยังอาคารผู้โดยสาร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม

เพื่อส่งหัวหน้าพนักงานต้อนรับที่เธอตะเพิดลงจากเครื่องบิน เพราะไม่พอใจที่เขานำถั่วแม็คคาเดเมีย ไปเสิร์ฟให้เธอทั้งห่อ โดยไม่แกะใส่จาน จนถูกตั้งสมญาว่า "ถั่ววีนแตก" (nut rage)

คณะอัยการยังไม่ได้ตั้งข้อหาทางอาญาต่อโช แต่กฎหมายเกาหลีใต้เปิดทางให้พนักงานอัยการสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเพื่อควบคุมตัวไว้ก่อนได้นาน 6 เดือน ในกรณีที่เกรงว่า จะมีการหลบหนีหรือทำลายหลักฐาน ซึ่งศาลแขวงในกรุงโซลเป็นผู้ออกหมายจับในครั้งนี้

เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการในกรุงโซล เปิดเผยว่า โชถูกนำตัวไปคุมขังในช่วงเวลาไม่นาน หลังจากศาลอนุมัติหมายจับเมื่อคืนวันอังคาร ส่วนผู้บริหารโคเรียน แอร์ ที่ถูกระบุเพียงแค่นามสกุลว่า เยียว ก็ถูกจับด้วย ฐานกดดันพนักงานโคเรียน แอร์ ให้ปกปิดความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้่น ซึ่งศาลระบุว่า ได้มีความพยายามปิดบังการกระทำของโชอย่างเป็นระบบ นับตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์ขึ้น

สำนักงานอัยการ ระบุว่า โชจะถูกตั้งข้อหาหลายข้อหา รวมทั้งการก่อเหตุรุนแรงบนเที่ยวบินและเปลี่ยนเส้นทางบิน ที่เป็นข้อห้ามภายใต้กฎหมายการบิน

โชได้ลาออกจากตำแหน่งรองประธานโคเรียน แอร์ และจากทุกบทบาทที่เกี่ยวข้องกับโคเรียนแอร์ ผู้โดยสารคนหนึ่งในเที่ยวบินที่เกิดเหตุ เปิดเผยต่อสื่อท้องถิ่นว่า โชได้ทำร้ายและข่มขู่ลูกเรือ

ด้านปัค ชาง-จิน หัวหน้าพนักงานต้อนรับและเป็นคนที่ถูกไล่ตะเพิดลงจากเครื่องบินเปิดเผยต่อสถานีโทรทัศน์ KBS ว่า เขาถูกเหยียดหยามและต้องคุกเข่าต่อหน้าโช เนื่องจากไม่กล้าขัดขืนลูกสาวประธานบริษัท ซึ่งโชยังเอามุมของสมุดคู่มือการให้บริการบนเครื่องบินทิ่มหลังมือเขาหลายครั้งด้วย

พฤติกรรมของโช สร้างความขุ่นเคืองให้กับชาวเกาหลีใต้ ที่ไม่พอใจสมาชิกในครอบครัวนี้ ที่ครอบครองกลุ่มธุรกิจ ที่เรียกว่า แชโบล ที่ทรงอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย โชกับน้องอีก 2 คน ได้กลายเป็นผู้บริหารโคเรียน แอร์ และบริษัทอื่นในเครือ

กระทรวงขนส่งของเกาหลีใต้ ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วย เนื่องจากถูกมองว่า เจ้าหน้าที่สรุปการสืบสวนที่เอื้ออำนวยให้กับบรรดาผู้บริหารของบริษัทที่พยายามปกป้องโช นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนส่วนใหญ่ยังเคยทำงานให้กับโคเรียน แอร์ สายการบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มาก่อนอีกด้วย ทำให้มีการตั้งคำถามถึงความยุติธรรม


ก่อนหน้านี้ กระทรวงขนส่งได้ตัดสินลงโทษเจ้าหน้าที่ 4 คน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในระหว่างการสืบสวน และมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งถูกจับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฐานรั่วข้อมูลเกี่ยวกับการสืบสวนให้นายเยียว หนึ่งในผู้บริหารได้ทราบก่อนที่เขาจะถูกจับ โดยพบหลักฐานการรั่วข้อมูลทั้งการสนทนาทางโทรศัพท์และการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือหลายครั้ง