svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

คาดโทษผู้บริหารปทุมวัน-อุเทนฯ หากเกิดเหตุรุนแรง

17 กันยายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

17 ก.ย.57 - เลขาธิการกกอ.เรียกปทุมวัน-อุเทนถวายหามาตรการลดทะเลาะวิวาท คาดโทษผู้บริหารหากเกิดเหตุความรุนแรงต่อนศ. ขณะที่ผู้บบริหารอุเทนถวาย เล็งหามาตรการเข้มงวด วอนรุ่นพี่รักอุเทนถวายจริง อยากให้อยู่ที่เดิม ขอให้อดทนอดกลั้น อย่าหนุนรุ่นน้องทำผิดกฎหมาย ส่วนปทุมวัน โอดวางมาตรการเข้มแล้วแต่นศ.ยังถูกทำร้าย ขอเวลาทำใจ

เมื่อเวลา 9.10 น. วันที่ 17 ก.ย.2557ที่ห้องประชุมชั้น 4 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เชิญ รศ.ดร.ปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน (สปท.) และ ผศ.สืบพงษ์ ม่วงชู รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เพื่อหาทางยุติปัญหาการทะเลาะวิวาทระหว่างนักศึกษา 2 สถาบัน หลังเกิดเหตุการณ์นักศึกษาทั้ง 2 แห่งถูกยิงเสียชีวิตจากการแก้แค้นกันและกัน ใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมงเศษรศ.นพ.กำจร กล่าวภายหลังการประชุมหารือว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการเชิญประชุมตั้งแต่เกิดกรณี น.ส. กันต์กณิษฐ์  พรหมแก้ว นักศึกษาปี 2มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย  ถูกยิงเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์นั้นก็ลุกลามมีการเสียชีวิตของนักศึกษาทั้ง 2 ฝ่ายอีกหลายราย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้รายงานเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นให้ทราบซึ่งส่วนมากก็เป็นไปตามข่าวที่ได้รายงานจากสื่อมวลชน  โดยสถาบันฯปทุมวันแจ้งเพิ่มเติมว่า มีนักศึกษาถูกยิงที่ปอด แต่ไม่เป็นข่าวอีก 1 ราย จึงได้ให้ทั้ง 2 สถาบันทำบันทึกเหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งให้สกอ.อีกครั้ง ส่วนกรณีนักศึกษาอุเทนถวายฯ ก่อเหตุยิงนักศึกษาเทคโนฯปทุมวันเสียชีวิต 2 ราย และถูกตำรวจจับกุมได้ 6 ราย นั้น นายสืบพงษ์ รายงานว่า กรณีที่เกิดเป็นเพราะศิษย์เก่าอุเทนถวายฯซึ่งเป็นรุ่นพี่เข้ามายุยงรุ่นน้องให้ก่อเหตุ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้นิ่งนานใจ มีมาตรการเข้มงวดทั้งตรวจค้นอาวุธ ติดตั้งกล้องวงจรปิด  ส่วนสถาบันฯ ปทุมวัน มีมาตรการที่ชัดเจนว่า ห้ามรุ่นพี่เข้ามาในบริเวณสถาบัน โดยเด็ดขาด  ทั้งการรับนักศึกษาก็จะไม่รับนักเรียนที่จบจากโรงเรียนที่มีปัญหาทะเลาะวิวาท และรับนักเรียนจากต่างจังหวัดมากขึ้น พบว่าได้ผล เพราะไม่ใช่นักศึกษาที่มาจากสถาบันที่เป็นคู่อริกัน ก็ลดปัญหาลงได้ จึงได้มอบนโยบายให้อุเทนถวายฯ กำหนดมาตรการห้ามบุคคลภายนอกเข้าสถาบันฯอย่างเด็ดขาด เช่นกันรศ.นพ.กำจร กล่าวต่อว่า ได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารทั้ง 2 สถาบันฯ อย่าให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก และถ้าเกิดจะใช้มาตรการลงโทษฝ่ายบริหาร คือ การตั้งกรรมการสอบวินัย ฐานปล่อยปละละเลย และฝากถึงศิษย์เก่าอุเทนถวายฯด้วยว่า กรณีปัญหาที่ดินของอุเทนถวายฯ ยังไม่ลุล่วง เห็นว่าทั้ง 2 สถาบันอยู่ร่วมกันอย่างสงบได้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ สังคมก็จะตั้งคำถามต่ออุเทนถวาย ว่าควรย้ายออกจากพื้นที่ได้หรือยัง อย่างไรก็ตาม 2 ปีที่ผ่านมา อุเทนถวาย 2 อยู่ในความสงบพอควร ซึ่งก็เข้าใจว่าน่าอยู่ร่วมกันได้อีกนาน แต่ถ้าก่อเหตุเพราะกรณีนักศึกษาสาวของอุเทนถวายฯยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายกังขา โดยอุเทนถวายฯเข้าใจว่าเป็นเทคโนฯปทุมวัน ส่วนเทคโนฯปทุมัน ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นนักศึกษาของตนหรือไม่ ก็อยากขอให้ตำรวจเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุ ถ้าจับได้ก็จะทำให้เหตุการณ์สงบลงได้สำหรับมาตรการระยะยาว ขณะนี้สภามหาวิทยาลัยของทั้ง 2 แห่งก็ควบคุมอย่างเข้มงวด ต้องขอขอบคุณ และขณะนี้ทั้ง 2 สถาบันก็จัดการรับน้องภายในสถาบันสามารถควบคุมไม่ให้ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่มีการทำร้ายรุ่นน้อง ซึ่งทำได้ดี แต่หากมีการลักลอบของรุ่นพี่พารุ่นน้องไปนอกสถานที่ ก็กำชับให้ดูแลเข้มงวดขึ้น  หากมีปัญหาก็จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลได้  ซึ่ง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เป็นห่วงการรับน้องในภาพรวม แต่ปัญหาการรับน้องของ 2 สถาบันนี้ กลายเป็นการนำน้องเข้าร่วมกระบวนการ ซึ่งน่ากังวลว่ารุ่นพี่ที่ไม่สร้างประโยชน์ต่อสถาบัน กลับใช้ความเป็นอริต่อสถาบันตรงข้าม มาใช้น้องเป็นเครื่องมือเป็นปัญหาในอนาคตด้านผศ.สืบพงษ์ กล่าวว่า เร่งทำความเข้าใจกับนักศึกษา ไม่ให้เกิดเรื่องอีก ถ้ามีเรื่องอีกชื่อเสียงจะเสียมากไปกว่านี้ โดยจะเพิ่มมาตรการให้มากขึ้น โดยตรวจค้นอาวุธ จำกัดการเข้าออกของบุคคลภายนอกตามนโยบายของเลขาธิการ กกอ. ทั้ง ศิษย์เก่า บุคคลภายนอก ไม่ให้เข้ามาในสถาบันฯเด็ดขาด เพราะเหตุที่เกิดมาจากศิษย์เก่าที่มีความคิดที่รุนแรงมายุยง และจะสืบหาคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์และส่งข้อมุลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะพวกนี้คือต้นตอของปัญหา ศิษย์เก่าบางคนก็มีงานทำที่ดี แต่เพราะมีแนวคิดที่รุนแรง เป็นความคิดเก่า อยากขอร้องศิษย์เก่า หากรักอุเทนถวายจริง ก็หยุดยุยงปลุกปั่นรุ่นน้อง เพราะศิษย์ปัจจุบันทุกคนอยากเรียนและตั้งใจเรียนหนังสือ ทั้งขอฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมคนร้าย ก็จะคลี่คลายปัญหาลงไปได้ อย่างน้อยมีความคืบหน้ามาชี้แจงบ้างก็จะทำให้บรรยากาศดีขึ้น  ส่วนกรณีนักศึกษาอุเทนถวายฯถูกจับกุม ก็จะปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนของอุเทนถวายฯก็จะดำเนินการตามขั้นตอน ตั้งแต่พักการเรียน จนถึงคัดชื่อออก ทั้งนี้ กรณีที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของอุเทนถวายฯ และเรื่องข้อพิพาทที่ดิน ขอร้องศิษย์เก่าทุกคน หากรับอุเทนถวายจริง อยากให้เราอยู่ที่เดิม ก็ขอให้อดทนอดกลั้นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่ามาสนับสนุนรุ่นน้องให้ทำผิดกฎหมาย นี่คือการแสดงความรักต่อสถาบันอย่างแท้จริง เพราะความรุนแรงไม่ได้แก้ปัญหาอะไรได้ อย่าให้สังคมมองว่าอุเทนถวายเป็นบริเวณที่อันตรายรศ.ดร.ปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน (สปท.)กล่าวว่าที่ผ่านมาในส่วนของสถาบันฯ ได้มีมาตรการป้องกันและดูแลนักศึกษาอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด  ไม่ว่าจะเป็น การคัดกรองนักศึกษาเข้าเรียน การคุ้มครองดูแลนักศึกษา ให้นักศึกษาเลิกเรียนตั้งแต่เวลา 15.00 น. และทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือจากนักศึกษาให้ดูแลตัวเอง และไม่ก่อเหตุทะเลาะวิวาท เป็นต้น แต่สุดท้ายก็ยังมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นกับนักศึกษาของเรา   โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดที่ทำให้ตน นักศึกษาปัจจุบัน และศิษย์เก่ารู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก เพราะนักศึกษาที่เข้าเรียนทุกคนเป็นเสมือนลูกหลานของเราเมื่อเขาถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ก็ได้สร้างความเศร้าสลดทุกครั้ง ส่วนที่จะเลขาธิการกกอ. ขอให้สถาบันฯปทุมวันไปหามาตรการป้องกันการทะเลาะวิวาท หรือความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ทางสถาบันฯคงรับไปดำเนินการและวางมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะดำเนินการอะไรเพิ่มเติมบ้าง เพราะมาตรการป้องกันและดูแลนักศึกษาของเราที่ผ่านมาก็เข้มข้นมากอยู่แล้ว
"ตอนนี้ผมไม่อยากพูดอะไรมาก ไม่อยากหาว่าใครผิดใครถูก หรือเหตุการณ์แต่ละครั้งเป็นความขัดแย้งของสถาบันฯ หรือไม่  เพราะยังรู้สึกสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ที่นักศึกษาปทุมวันของเราถูกทำร้าย  ขอเวลาทำใจ แต่หลังจากนี้จะวางมาตรการในการดูแลนักศึกษาอย่างเต็มที่ และเฝ้าระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นกับนักศึกษาสถาบันฯ ปทุมวันอีก" ดร.ปัญญา กล่าว

logoline