ถกปราบน้ำมันเถื่อน เน้นเฝ้าระวังลักลอบนำเข้า

โดย พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ ได้กล่าวถึงการเน้นย้ำถึงการหารือเกี่ยวกับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.วัชระพล ประสานราชกิจ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำถึงแนวทางเร่งดำเนินการ และต้องประกอบกำลัง 34 ชุด 
มุ่งขับเคลื่อนในเรื่องพลังงาน เพราะเป็นเรื่องของผลประโยขน์ของชาติบ้านเมือง ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง 60 เปอร์เซ็นต์ และภาคครัวเรือน 40 เปอร์เซ็นน์ ซึ่งทางตำรวจจะมีหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย เพื่อลดความเดือดร้อน และป้องกันเพื่อไม่ให้ผู้กระทำผิด ที่เป็นกลุ่มรายใหญ่ และกลุ่มรายย่อย หรือ กลุ่มฟอกน้ำมัน ที่กำลังทำอยู่ หรือกำลังจะทำ ไม่ให้ทำผิดกฏหมายได้ 
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ปฏิบัติการร่วมกันทั้งประเทศ เพื่อไม่ให้มีการลักลอบน้ำมันเถื่อน ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่ ทั้ง 4 จุด คือ 1.ภาคเหนือ แม่สอด จังหวัดตราด แม่สาย จังหวัดเชียงราย เวียงจันทร์ เชียงของ ที่ติดกับทางด้านชายแดน ที่ติดต่อฝั่งลาว 2.ภาคอีสาน ต้องเฝ้าระวังในจังหวัดหนองคาย จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดอุบลราชธานี 3.ภาคตะวันออกที่เป็นหน้าด่านสำคัญ อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดชลบุรี ที่มีทำมานานแล้ว เพราะเกี่ยวข้องกับทางทะเลด้วย4.ภาคใต้ สำคัญมาก เป็นจุดยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการเคลื่อนไหวขบวนการ ทั้งฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน ที่มีการกระทำผิดด้านเชื้อเพลิงมาก 
ทั้งนี้ ตำรวจน้ำจะช่วยดูแล อย่างไรก็ตามยังคงต้องขอความช่วยเหลือจาก กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร ตำรวจในพื้นที่ ที่สำคัญต้องประสานไปยังกองทัพเรือ ในการช่วยดำเนินการด้วย