ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายทรงศัก สายเชื้อ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ แถลงภายหลังนำคณะเจ้าหน้าที่ของไทยพร้อมผู้แทนสมาคมอาหารไทย 8 สมาคม เยือนสหรัฐอเมริกา ในระหว่างวันที่ 19-25 ก.ค. 2557 เพื่อพบปะหน่วยงานภาครัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน รัฐสภา ของสหรัฐ และกลุ่มห้างขายปลีกรายใหญ่หลายห้าง สมาคมผู้ค้าปลีกของสหรัฐอเมริกากว่า 10 ราย ที่มาร่วมประชุมที่กรุงวอชิงตันดีซี และซีอีโอจาก 18 บริษัท รวมทั้งสหภาพแรงงานของสหรัฐ เพื่อชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าว และถือโอกาสชี้แจงสถานการณ์ล่าสุดของการเมืองไทย โดยยืนยันว่า คสช.เน้นเรื่องการบูรณาการปัญหาแรงงานต่างชาติกับปัญหาการค้ามนุษย์ และมีมาตรการสำคัญ โดยอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในประเทศไทยเข้าสู่ระบบโดยการตั้งศูนย์ one stop service รับจดทะเบียน เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ การถูกเอารัดเอาเปรียบ ปัญหาการค้ามนุษย์ อีกทั้งยังชี้แจงถึงการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน 12 จุด รวมถึงแก้ไขปัญหาแรงงานประมง ภาคอุตสาหกรรมทางทะเลแบบครบวงจร มีการเสนอร่างกฎหมายแรงงานทะเล ซึ่งจะคุ้มครองแรงงานภาคประมงอย่างเป็นระบบ ให้เวลาหยุดพักปีละ 30 วัน ซึ่งคสช.อนุมัติแล้วและพร้อมจะเสนอสนช.พิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ยังมีกฎหมายเกี่ยวกับการบูรณาการให้การตรวจสอบในเรื่องนี้อย่างเข้มข้น และเป็นธรรม ซึ่งจากการอธิบายปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์กับทางสหรัฐอเมริกา พบว่ามีความเข้าใจมากขึ้นถึงแนวทางแก้ไขปัญหาแรงงานอย่างเป็นระบบของคสช. รวมทั้งเห็นมาตรการและความจริงใจ และชี้ให้เห็นว่า มีศักยภาพที่จะถอดสินค้า 4 รายการ คืออ้อย กุ้ง ปลา เครื่องนุ่งห่ม ออกจากบัญชีรายชื่อสินค้าการใช้แรงงานเด็ก-บังคับโดยกรณีของสินค้าอ้อยมีความเป็นไปได้กว่าสินค้าอื่น ซึ่งจะส่งข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปในเดือนสิงหาคม และคงต้องรอดูประกาศในเดือนกันยายน นายทรงศัก กล่าวอีกว่า ส่วนภาคเอกชนของสหรัฐก็เข้าใจและเชื่อมั่นในแนวทางการทำงานของ คสช. จึงยังคงยืนยันที่จะสั่งซื้อจากไทยต่อไป ที่จะทำงานร่วมกัน และทุกกลุ่มที่ไปพบเห็นพ้องว่าควรจะมีการสื่อสารกันมากขึ้น โดยอาจจะเป็นการประชุมทางโทรศัพท์มากขึ้น และพร้อมจะไปชี้แจงแนวทางของไทยต่อฝ่ายบริหารของสหรัฐด้วย ทั้งนี้ ในส่วนสถานการณ์ด้านการเมือง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และรัฐสภาสหรัฐ ได้รับทราบแผนโรดแม็ป และติดตามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางสหรัฐคงไม่มีมาตรการอะไรเพิ่มเติมต่อไป นอกจากจะสนับสนุนเพื่อให้ไทยมีพัฒนาการของประชาธิปไตยมากขึ้น
" สหรัฐมีความเข้าใจมากขึ้น และจะมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกัน และหากสหรัฐต้องการช่วยแก้ปัญหาการค้ามนุษย์จริงจังก็ควรหันมาแนวทางนี้ ซึ่งการนำแรงงานเข้าสู่ระบบนั้น ประเทศอื่นๆ ก็ดำเนินการเช่นกัน ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเสนอต่อสนช. จากนั้น จะมีการลงสัตยาบันในเรื่องนี้ต่อไป" นายทรงศัก กล่าว ด้านพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ได้ชี้แจงถึงการเอาจริงเอาจังการดำเนินคดีกับผู้ทำผิด การหลบหนีเข้าเมือง การค้ามนุษย์ ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานทำงานร่วมกัน และยืนยันว่าได้ป้องกันไม่ให้มีกระบวนการหลอกลวงแรงงานภาคประมงเกิดขึ้น และกำลังออกกฎหมายในการดูแลแรงงานภาคประมง เพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรม นางเสาวนีย์ โขมพัตร รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า ได้ย้ำและยืนยันต่อสหรัฐทั้งภาคเอกชนและภาครัฐว่า ได้เร่งปรับปรุงระบบและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการดำเนินคดีในการคุ้มครองผู้เสียหายหรือผู้ตกเป็นเหยื่อในการค้ามนุษย์ โดยทำงานร่วมกับฝ่ายกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการช่วยเหลือที่เป็นไปตามอนุสัญญาต่างๆ