ต้องย้อนความกลับไปก่อนหน้านี้ ป.ป.ท.ได้มีข้อสรุปผลสอบทุจริตจ้างงานคนพิการที่จังหวัดกาฬสินธุ์และนครพนมแล้ว ลงมติว่ามีมูล ซึ่งคนพิการและผู้ดูแลผู้พิการทางสติปัญญา ถูกสมาคมและมูลนิธิช่วยเหลือคนพิการบางแห่งในจังหวัดกาฬสินธุ์และนครพนมหักหัวคิว จ่ายเงินให้จริงเพียงเดือนละ 500-3,000 บาท จากอัตราค่าจ้างเต็มอยู่ที่ 9,125 บาทต่อเดือน หรือ 109,500 บาทต่อปี
การที่ ป.ป.ท.ลงมติว่ามีมูล แสดงว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง จึงสวนทางกับการสอบสวนของทางวจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่สรุปว่าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐของจังหวัดร่วมอยู่ในขบวนการทุจริต มิหนำซ้ำยังกล่าวหาว่าผู้ดูแลคนพิการมีส่วนกระทำผิดด้วย ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนให้สมาคมและมูลนิธิคนพิการกระทำผิด ทำให้เครือข่ายคนพิการต้องยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ไต่สวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ คุณไกรสร กองฉลาด และยื่นให้ยูเอ็นช่วยตรวจสอบด้วยอีกทาง
วันนี้ ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ได้ประชุมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ก่อนมอบหมายให้ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าฯ ชี้แจงแทน โดยย้ำว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา 2 ชุด ได้ข้อสรุปตรงกันว่า มีเจ้าหน้าที่ในสำนักงานจัดหางานจังหวัด บกพร่องในหน้าที่ โดยได้ออกหนังสือรับรองให้ผู้ปกครองคนพิการกับทางชมรมคนพิการ เข้าร่วมโครงการจ้างงานเพื่ออุดหนุนคนพิการตามกฎหมายจริง แต่ไม่ได้ตรวจสอบลึกถึงวันทำงานและค่าตอบแทน จึงไม่พบว่าเกี่ยวพันกับการทุจริต
ส่วนผู้ดูแลคนพิการ พบว่า น่าจะมีส่วนรู้เห็นเป็นใจกันกับประธานชมรมคนพิการ ที่มีการหักหัวคิว เพราะเงินค่าตอบแทนถูกส่งเข้าบัญชีของผู้ดูแลคนพิการ และทางชมรมฯได้เก็บสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มเอาไว้ด้วย นี่คือสิ่งที่คณะกรรมการสอบสวน 2 ชุดสรุปตรงกัน
นี่คือบทสรุปของทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ส่วนจะฟังขึ้นหรือไม่ ต้องรอฟังการไต่สวนจากองค์กรตรวจสอบอย่าง ป.ป.ท. และ ป.ป.ช.