เก่งแต่โกง มี-หนี-ไม่จ่าย เส้นทางชีวิต "ดลฤดี" หนีทุน

และที่สำคัญ ผู้ค้ำประกัน ต้องมารับเคราะห์ชดใช้หนี้แทน!

จุดเริ่มต้นมาจากความทุกข์ อันมาจากความหวังดีของผู้ค้ำประกัน ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ ทันตแพทย์เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี 1 ใน 4 ผู้ค้ำประกันให้ ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ โดย ทพ.เผด็จ ที่โพสต์เรื่องลงเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "ทพ.เผด็จ หมอทอม" เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 มีใจความว่า

"สิ้นสุดสักทีกับกรรมเก่า ผมได้ชดใช้ให้แล้ว รวมยอดกับที่ต้องชำระให้อีกร่วมล้าน กับการค้ำประกัน นางสาว....อดีตอาจารย์ภาควิชาทันตกรรมสำหรับเด็ก คณะทันตแพทย์ ม.มหิดล ผู้ซึ่งรับทุนศึกษาต่อที่อเมริกา โดยมีผมซึ่งเข้ามาเรียนที่มหิดลในฐานะคนรู้จักแต่ด้วยความที่เห็นแก่คณะและวิชาชีพ จึงยอมค้ำประกันร่วมกับอาจารย์และเพื่อนร่วมงานและเพื่อนอีกคนของนางสาว....หวังว่าเขาจะกลับมาทำประโยชน์แก่ส่วนรวม

"แต่สิ่งที่ผมและทุกคนได้รับคือบอกว่า ไม่มีเงิน ทั้งๆ ที่เขาทำงานเป็นนักวิจัยที่ ม.ฮาร์วาร์ด รับเงินเดือนสูง อยู่อพาร์ตเมนต์หรูหราในอเมริกา เขาทำได้แม้อาจารย์ผู้สั่งสอน และสนับสนุนให้ได้เรียน ผู้ร่วมงาน เพื่อน อย่างไม่ละอายแก่ใจ พ่อของเขาและญาติพี่น้องก็ไม่สนใจ เขาเคยโทรหาผมแค่ครั้งเดียวว่าจะไม่ทำให้ผมเดือดร้อน ผมยังต้องส่งเสียลูกอีก 4 คน แต่ผมต้องนำเงินมาชำระแทนเขา จึงขอให้เรื่องนี้เตือนสติแก่ผู้ที่จะค้ำประกันใคร การศึกษาและชาติตระกูลไม่ได้ช่วยอะไร เขาวางแผนล่วงหน้าแล้วให้พ่อเขารับผิดชอบน้อยที่สุดและมาชดใช้ให้หมดแต่ไม่ยอมชดใช้ให้คนอื่น ช่วยแชร์กันนะครับ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ และผู้ที่จะทำธุรกรรมกับคนในครอบครัวนี้ หรือบุคคลอื่น แม้ท่านจะปรารถนาดีก็ตาม"

หลัง ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ โพสต์ข้อความดังกล่าว ข่าวหนีทุน "ดลฤดี หนีทุน" กระจายสู่วงกว้างขึ้นเรื่อย ทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อโซเชียล ต่างรายงานข่าวคราวเรื่องการหนีทุนของเธอ และโดยเฉพาะโลกโซเชียลได้ขุดคุ้ย เรื่องราวของ ดลฤดี หนีทุน แทบทุกซอกทุกมุม

แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถติดตามตัวมา ดลฤดี มาชดใช้ทุน หรือใช้หนี้ให้กับผู้ค้ำประกันได้ เธอยังลอยนวล

โลกโซเชียลมีการขุดคุ้ยชีวิตของ ดลฤดี หนีทุน โดยบอกว่าเป็น หมอเก่งเเต่โกง จบโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ห้อง King 1 อดีตอาจารย์คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ไปเรียนต่อปริญญาโทและเอก ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา

ดลฤดี ปักหลักและได้สามีที่สหรัฐอเมริกา หลังเรียนจบ ไม่กลับเมืองไทย และไม่ยอมชดใช้ทุนตามสัญญา โดยได้ทำงานที่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พร้อมยังมีคลินิกทันตแพทย์เป็นของตัวเอง และซื้อบ้านในเมืองนิวตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

กรณี ดลฤดี หนีทุน ได้ถูกมาตรการทางสังคม รุมกระหน่ำ มีการชักชวนกลุ่มคนไทยที่อยู่ในสหรัฐฯ ช่วยกันประท้วงในหน้าแฟนเพจ ม.ฮาร์วาร์ด รวมถึงร้องเรียนไปทางออนไลน์ หลายรูปแบบ เพราะเห็นนว่า ดลฤดี มีฐานะทางการเงิน มีบ้านมีรถ มีอาชีพที่มั่นคง คือ มีเงิน แต่กลับหนี และไม่ยอมชดใช้ทุน

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ดลฤดี ได้ส่งเมล์มาถึง อาจารย์และเพื่อนผู้ค้ำประกัน โดยเธอระบุว่า ...

"ถ้ามหิดลไม่ต่อเส้นตายออกไปอีก ฉันก็หมดหนทางที่จะหาเงินที่เหลือมาใช้ให้ ถ้าคุณสามารถหาเงินมาจ่ายให้พวกเขาได้ก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์ ฉันจะหาเงินมาใช้คืนให้ในวันข้างหน้าพร้อมดอกเบี้ย ฉันจะพยายามหาเงินอีกช่วงฤดูร้อน แต่ตอนนี้ ฉันยังไม่มีคุณสมบัติที่จะยื่นกู้เพิ่มได้อีกแล้ว"

หลังข่าวคราว ดลฤดี หนีทุน โด่งดัง ทาง มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แถลงข่าว (2 กุมภาพันธ์ 2559) เพื่อฟ้องร้องให้ นางดลฤดี มาชดใช้ทุน

และเมื่อเดือนมีนาคม 2559 ศาลล้มละลายกลาง สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดของ ดลฤดี ที่ได้หนีการใช้ทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อไม่ใช้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินได้ และนำไปชำระหนี้ทุน หลังศาลปกครองมีคำสั่งให้ชดใช้หนี้

โดย ศาลล้มละลายกลาง นัดพิจารณาคดีที่มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นโจทก์ที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ. เป็นโจทก์ที่ 2 ยื่นฟ้อง นางสาวดลฤดี จำลองราษฎร์ อดีตอาจารย์ภาควิชาทันตกรรมเด็ก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้รับทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท และเอก ที่สหรัฐอเมริกาเป็นจำเลย โจทก์ทั้งสองได้ฟ้องจำเลยต่อศาลปกครอง ให้รับผิดชอบชดใช้ทุนที่จำเลยผิดสัญญารับทุนรัฐบาลศึกษาวิชาในต่างประเทศ ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาให้จำเลยชดใช้เงินมหาวิทยาลัยมหิดลกว่า 2 ล้านบาท ชดใช้เงินให้ สกอ. อีกกว่า 20 ล้านบาท

ศาลพิจารณาพยานหลักฐานของโจทก์ทั้งสองแล้ว ได้พบว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ทั้งสองตามคำพิพากษาศาลปกครองเป็นเงินจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท เป็นหนี้ที่มีจำนวนแน่นอน แต่จำเลยไม่มีทรัพย์สินที่จะยึดมาชำระหนี้ได้ จึงมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาด เพื่อนำมาชดใช้หนี้ หรือทุนที่ได้ใช้ไป และให้จำเลยใช้ค่าธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสอง โดยให้หักจากกองทรัพย์สินของจำเลย ส่วนค่าทนายความให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดตามที่เห็นสมควร เท่ากับว่าหลังจากนี้นางสาวดลฤดีจะไม่สามารถเคลื่อนย้าย หรือใช้ทรัพย์สินที่มีได้ แต่ยังไม่ถือว่าเป็นบุคคลล้มละลาย เพราะยังมีอีกหลายขั้นตอน

แต่ที่ผ่านๆ มา ก็ไม่มีวี่แววใดๆ ว่า ดลฤดี จำลองราษฎร์ จะมาชำระหนี้ ทั้งชำระชดใช้ทุน หรือชำระให้ผู้ค้ำประกัน ที่ต้องชดใช้แทน และได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส!

ความจริงการไปปักหลักปักฐานที่สหรัฐฯ ไม่กลับมาประเทศไทยบ้านเกิด เป็นเรื่องที่ทุกคนมีสิทธิ์เลือกเส้นทางของตัวเอง แต่การหนีทุน นอกจากจะเป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้แล้ว การมาทิ้งภาระค้ำประกันทุน ให้อาจารย์และเพื่อนๆ รับเคราะห์แทน ยิ่งเป็นสิ่งที่สังคมไทย หรือสังคมโลก ให้อภัยไม่ได้!

ล่าสุดกลางปี 2559 ดลฤดี ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจากการตรวจสอบของโลกโซเชียล พบว่า ดลฤดี จำลองราษฎร์ ได้ย้ายจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เพราะทนแรงกดดันทางสังคมที่ฮาร์วาร์ดไม่ไหว โดยย้ายมาทำงานที่มหาวิทยาลัยบอสตัน ยูนิเวอร์ซิตี้

และวันนี้ (20 กันยายน 2560) ทาง ทันตแพทยสภา ได้มีมติเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีทันตแพทยสภาของ ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ ที่มีกรณีหนีการชำระทุน เพราะประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทันตกรรม
-------
(อ่าน...เพิกถอนใบอนุญาตทันตแพทย์  "ดลฤดี จำลองราษฎร์")
(ชมคลิป Talk Today : ทันตแพทยสภามีมติเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ "ดลฤดี หนีทุน")
(อ่าน..."หมอเผด็จ" ขอบคุณทุกฝ่าย "ดลฤดี หนีทุน" ถูกถอนใบอนุญาต แนะส่งผลไปแจ้งทันตแพทยสภาสหรัฐฯ)