svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

 "จเร" แจง เขียนจม.ตัดพ้อชีวิตราชการแค่ให้คติคนรุ่นหลัง

26 กันยายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"จเร" แจง เขียนจดหมายเกษียณ ตัดพ้อชีวิตราชการ แค่เป็นคติสอนใจคนรุ่นหลัง เผย ไม่เคยโกรธใคร ปมโดน "ม.44" โยกพ้น "เลขาฯ สภา" ระบุ มันเป็นสัจธรรม

(อ่าน..."จเร พันธุ์เปรื่อง" เขียนบทอำลาราชการ แฉสิ้นไส้!)


26 ก.ย.60 - ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล นายจเร พันธุ์เปรื่อง ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในวันที่30ก.ย.นี้ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เขียนจดหมายสัจธรรมชีวิตราชการ"หนังสือที่ระลึกในงานอำลาตำแหน่งราชการของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยข้อความตอนหนึ่งตัดพ้อชีวิตราชการ กรณีถูกคำสั่งตามมาตรา44ให้พ้นจากตำแหน่งเลขาสภาฯ มาเป็นที่ปรึกษาประจำสำนักนายกฯ ว่า จดหมายดังกล่าวเขียนขึ้นในโอกาสที่ทางสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เชิญไปร่วมงานเกษียณอายุราชการ และพิธีมอบประกาศนียบัตรและของที่ระลึกแจกข้าราชการที่จะเกษียณ โดยมีหนังสือเล่มหนึ่งที่จะแจกภายในงาน ตัวหนังสือดังกล่าวมีแนวคิดที่จะให้ข้าราชการที่จะเกษียณอายุเขียนบทที่เป็นคติสอนใจน้องๆและข้าราชการรุ่นหลังให้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ


"ทีแรกก็ไม่ได้อยากเขียน เพราะส่วนตัวแล้วไม่มีอะไรจะบอก แต่ทางทีมงานอยากให้เขียนเพื่อให้ข้าราชการรุ่นหลังถือเป็นแนวทาง ซึ่งเขาคงเห็นว่าผมมาอยู่ตรงนี้มาอยู่เฉยๆ ให้ทำอะไรก็ทำ และไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร ทางน้องๆข้าราชการก็เคยมาถามอยู่เหมือนกัน ว่าถูกย้ายมาที่นี่ไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลยหรือ ไม่ทุรนทุรายเลยหรือ ผมก็บอกได้เพียงว่าหากมีอะไรให้ทำก็บอกมาแล้วกัน ผมยินดีทำทุกอย่าง ทางเขาก็ได้ให้ผมเขียนคติพจน์เพื่อสอนใจน้องๆ ทีแรกผมก็ถามเขาว่าผมสอนอะไรเขาได้ด้วยเหรอเพราะเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน แค่ 2 ปีเอง"นายจเร กล่าว

นายจเร กล่าวว่า เนื้อหาในหนังสือที่เขียน ได้เล่าให้ฟังว่า เราตั้งใจปฏิบัติงาน ตั้งแต่เริ่มรับข้าราชการ และพยายามติดตามข่าวสารบ้านเมือง ตลอดจนพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งนี้ หลังจากถูกคำสั่งย้าย ก็ไม่เคยโกรธใคร เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกรรม อาจเป็นเพราะเราส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถประนีประนอม หรือไม่สามารถอธิบายให้ใครเข้าใจได้ นอกจากนี้ ในจดหมายไม่ได้ตัดพ้อรัฐบาล เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า คนที่ไม่ดี ไม่ว่าจะมาอย่างไรก็ไม่ดี ส่วนคนที่ดีไม่ว่าจะมาอย่างไร อยู่ที่ไหน ก็เป็นคนดี

"มันเป็นสัจธรรม หลวงพ่อของผมสอนเอาไว้ว่า เรื่องทางโลกมันก็หมุนไปตามโลก ถ้าเราเอาจิตไปแขวนกับมัน มันก็หมุนเหวี่ยงเราไปเรื่อย เรื่องที่ผมเขียนก็ไม่ได้โกรธใคร หรือไม่ได้คิดที่จะอะไรต่ออะไรทั้งนั้น เพียงแต่ต้องการให้กำลังใจข้าราชการว่า ถ้าคุณยอมเท่ากับคุณทำร้ายประเทศ เชื่อหรือไม่ว่าลูกชายของผมเคยบอกผมว่า เวลาที่เขาอ่านหนังสือพิมพ์ เห็นไหมว่าคนที่โกงแล้ว ข้าราชการที่อยู่เฉยๆก็เท่ากับโกงด้วย ไม่ต่างกันหรอก สิ่งที่พบเจอมาซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในระบบราชการ ในเรื่องการขอย้ายใครต่อใครและการดำเนินงานต่างๆ ผมพยายามทำให้เพื่อนข้าราชการ โดยเฉพาะในสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เห็นว่าการเป็นข้าราชการมันควรจะเป็นอย่างไร"นายจเร กล่าว

นายจเร กล่าวว่า การที่คนภายนอกเข้ามาแทรกแซง มันก็ไปอีกอย่างหนึ่ง มันก็เป็นเรื่องปกติ พูดจริงๆแล้วผมต้องขอบคุณ คสช. ที่เอาผมออกมา เพราะไม่อย่างนั้น อาจจะต้องเจอปัญหาอีกเยอะแยะมากมาย อาจจะไม่ได้เกษียณก็ได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในแง่ลบมันก็มีบวก ในแง่บวกมันก็มีลบ

"ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก จนที่บ้านว่าพวกมองโลกใสบางทีก็น่ารำคาญ แล้วเราก็ให้กําลังใจตัวเองว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิดปกติ แต่ทำไมเราถึงกลายเป็นคนผิดปกติไปได้ ตรงนี้ก็หาคำตอบลำบาก ส่วนเรื่องที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่พบว่าผมมีความผิดตามข้อกล่าวหาที่ถูกย้ายนั้น ก็ไม่เป็นไร อย่าไปคิดว่าผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนที่ระบุในจดหมายเรื่องของคนโกง นั้นก็ไม่ได้ว่าใคร เพียงแต่จะบอกสัจธรรมเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านๆมาไม่เคยมีการโกง หรือในอนาคตจะไม่มีการโกง หรือตอนนี้ไม่มีการโกง แต่จะมาอย่างไรจะเลือกตั้งจะแต่งตั้ง ถ้าคนไม่มีสำนึกสำนึกมันก็หายไป"นายจเร กล่าวในที่สุด

logoline