svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นายกฯ"ย้ำยุทธศาสตร์ไทย-เวียดนาม ฝากดูแลนักลงทุนไทย

22 มีนาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นายกฯ" ย้ำความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-เวียดนาม ขอรบ.เวียดนามอำนวยความสะดวกนักลงทุนไทย เชื่อว่าการลงทุนจะมีบทบาทในการสนับสนุนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมระหว่างกัน โดยใช้ประโยชน์จากกลไกทวิภาคี พร้อมฝากความคิดถึงเพื่อนสนิทนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรี ด้านนายฟาน จี๊ ทัญ ยืนยัน พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันทุกระดับ

วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายฟาน จี๊ ทัญ (H.E. Mr. Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสรุปสาระสำคัญ ว่านายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตเวียดนามในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดยได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเวียดนามที่มีความใกล้ชิดและมีพลวัตมาอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อกัน อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรเพิ่มพูนความร่วมมือในสาขาที่ทั้งสองมีศักยภาพ อาทิ เกษตรกรรม โดยนายกรัฐมนตรียังได้ฝากความระลึกถึง นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีในฐานะเพื่อนสนิทที่ได้พบปะหารือกันมาตลอด และ นายเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรค พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ครั้งที่ 13 ที่ผ่านมา ที่ประสบความสำเร็จไปด้วยดี

นายอนุชา กล่าวอีกว่า เอกอัครราชทูตเวียดนามฯ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ยินดีที่ได้ดำรงตำแหน่งที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่น่าอยู่ พร้อมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเวียดนามที่มีความใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน โดยในปีนี้ครบรอบ 45 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายจะได้ประสานงานกันเพื่อจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวาระสำคัญดังกล่าว อีกทั้งได้ยืนยันพร้อมสานต่อและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในทุกระดับ ตลอดจนประสงค์ที่จะแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากไทยในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อไป

นายอนุชา กล่าวว่า ไทย-เวียดนาม พร้อมส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยใช้ประโยชน์จากกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ อาทิ คณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) เพื่อเป็นกลไกในการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและกำหนดเป้าหมายการค้าใหม่ระหว่างกัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่มีรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในเวียดนามเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมขอให้รัฐบาลเวียดนามช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนไทยในเวียดนามด้วย โดยเชื่อว่าการลงทุนของไทยจะมีบทบาทในการสนับสนุนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมระหว่างกัน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังชื่นชมความสำเร็จของเวียดนามในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเอเปคเมื่อปี 2560 ทั้งนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเอเปคในปี 2565 โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีในการสานต่อความร่วมมือระหว่างกันในระดับพหุภาคี พร้อมหวังว่าเวียดนามจะให้การสนับสนุนประเด็นที่ไทยจะผลักดัน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว (Bio-Circular-Green Economy)

logoline