"ทีมข่าวข้นคนข่าว" ได้รับข้อมูลการสืบสวนของตำรวจนครบาล ระบุว่า แก๊งค์มิคาโดะ มีนายเติ้ล เป็นฟันเฟืองตัวหนึ่งของแก๊งโดยตัวของนายเติ้ล ไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ชอบแต่งรถซิ่ง ซึ่งเครือข่ายของแก๊งมิคาโดะจะส่งคนภายในแก๊งไปที่ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาเสพติดของแก๊งนี้เมื่อผลิตยาเสพติดได้แล้วก็จะนำยามาพักไว้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ขณะที่ ความสัมพันธ์ของเครือข่ายของแก๊งมิคาโดะจะมีนายเติ้ลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สายไหม โดยมีความสัมพันธ์กับ "บังมีน" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญและตัวของบังมีนเอง ก็เปิดธุรกิจประดับยนต์บังหน้าอยู่ในพื้นที่สายไหม
นอกจากนี้ นายเติ้ล กับ บังมีน ก็มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับ "แก๊งเป็นต่อ" และ "แก๊งตาพูล"ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำธุรกิจแต่งรถบังหน้าและอยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
แต่หากสังเกตดีๆ จะพบว่า พื้นที่เหล่านี้ถือเป็นทำเลทองของแก๊งค้ายาเสพติด ซึ่งแก๊งมิคาโดะ เลือกพื้นที่ที่อยู่ใจกลางกรุง มีผู้คนอาศัยอยู่จำนวนมากโดยลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ จะมีทั้งหอพัก อพาร์ตเมนต์ ร้านเหล้า ผับ บาร์ และมหาวิทยาลัยมีลักษณะคล้ายกับ "รังปลวก" ซึ่งสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนรัชดาภิเษก ถนนพหลโยธินและถนนรามอินทรา จนทะลุไปยังจังหวัดปทุมธานี บริเวณเส้นทางไปสู่อำเภอลำลูกกา
ข้อมูลที่ "ทีมข่าวข้นคนข่าว"ได้รับมาจากการสืบสวนของตำรวจ พบว่า มีความใกล้เคียงกับที่เราได้เปิดประเด็นแหล่งที่มาของ"เคนมผง" เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่บอกว่า ต้นตอของเคนมผง เริ่มมาจากชุมชนในพื้นที่อำเภอลำลูกกาจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบตัวยาเสพติดเนื่องจากช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเคตามีนซึ่งเป็นยาเสพติดที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นขาดตลาด และมีราคาที่พุ่งสูงขึ้นทำให้กลุ่มพ่อค้ายานรกหัวใสนำเอายาเสพติดประเภทอื่นที่ราคาถูกกว่าเคตามีน เช่นไอซ์ เฮโรอีน และยาเสพติดมาผสมเป็นเคนมผง เพื่อจุดประสงค์หลายอย่าง เช่นง่ายต่อการหายาเสพติดมาเป็นส่วนผสม ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น แถมยังลดต้นทุนการผลิตจากเดิมที่ขายเคตามีนอาจจะได้กำไรไม่เยอะ แต่เมื่อผสมแล้วทำให้มีปริมาณมากขึ้นและดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ให้หันมาสนใจตัวยาชนิดใหม่ที่สำคัญลูกค้ายาเสพติดในกลุ่มตลาดระดับกลาง และตลาดล่าง ก็มีกำลังที่จะซื้อหายาเสพติดได้ไม่ยาก