ผลการศึกษาของวิทยาลัยแพทยศาสตร์เขตร้อนและสุขอนามัยของมหาวิทยาลัยลอนดอน สรุปว่า การใช้มาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวดที่สุดในระดับ 4 ทั่วอังกฤษ(England) และการปิดโรงเรียนตลอดเดือน ม.ค. ร่วมกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนมากถึง 2 ล้านคนต่อหนึ่งสัปดาห์ทั่วสหราชอาณาจักรเป็นหนทางเดียว ที่จะช่วยลดภาระของแผนกผู้ป่วยหนักหรือไอซียูที่พุ่งสูงสุดในขณะนี้ให้ชะลอลงอยู่ในระดับต่ำกว่าการระบาดระลอกแรก และหากไม่มีการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางมากพอ จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลและในห้องไอซียูรวมทั้งผู้เสียชีวิตในปี 2564 จะสูงเกินกว่าปีนี้ แต่ผลการศึกษานี้ยังต้องรอการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก
ขณะที่รัฐบาล เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า มีประชาชนมากถึง 6 แสนคนทั่วสหราชอาณาจักรได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอเอ็นเทคแล้ว และสื่อรายงานเมื่อสุดสัปดาห์ว่า สหราชอาณาจักรเตรียมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดร่วมกับบริษัทแอสตราเซเนกาตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.โดยคาดว่าวัคซีนจะได้รับการอนุมัติภายในไม่กี่วันนี้
และเมื่อวันจันทร์มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 41,385 คนทั่วสหราชอาณาจักร ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 40,000 คน และยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 2,329,730 คน นอกจากนี้มีผู้เสียชีวิตรายใหม่อีก 357 คนทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 71,109 คน