ตัวแทนกลุ่ม 24 มิถุนาฯ ยื่นหนังสือยูเอ็น กดดันรัฐบาลไทย ยกเลิก ม.112
กลุ่ม 24มิถุนาฯ ยื่นหนังสือถึงยูเอ็นให้กดดันรัฐบาลไทย ยกเลิก ม.112 มองปิดกั้นสิทธิเสรีภาพผิดหลักสิทธิมนุษยชน ชี้ หากยกเลิกจะทำให้สถาบันอยู่กับประชาชนได้อย่างสง่างามและทำความเข้าใจกับประชาชนได้ รวมถึงการเมืองไทยจะดีขึ้น เตรียมส่งหนังสือถึงทั่วโลกให้สนับสนุนการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของไทย
กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า 24มิถุนาประชาธิปไตย นำโดยนายสมยศ พฤกษเกษมสุข พร้อมมวลชน เดินทางมายื่นหนังสือถึงองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เพื่อเรียกร้องให้ นานาชาติกดดันรัฐบาลไทยให้ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ม.112 ซึ่งทางกลุ่มฯได้ส่งตัวแทนเข้าไปยื่นหนังสือจำนวน3คนภายในสำนักงานฯ
โดยนางสาวสิรภัทร คัยนันทน์ หนึ่งในแกนนำ บอกว่า วันนี้มาเพื่อเรียกร้องให้ยูเอ็นกดดันรัฐบาลเพื่อให้ยุติการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม นิสิตนักศึกษา ประชาชน แกนนำผู้ชุมนุมต่างๆโดยเร็ว และกดดันให้ยกเลิก กฎหมาย112 ซึ่งเป็นกฎหมายอาญาที่มองว่าผิดหลักสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้มองว่า ม.112 ผิดต่อหลักสิทธิมนุษยชน และสิทธิในการแสดงออก และยืนยันว่า ประชาชนมีสิทธิที่จะพูด
ขณะที่นายสมยศ พฤกษเกษมสุข แกนนำกลุ่ม24มิถุนาประชาธิปไตยบอกว่า กฎหมาย ม.112 เป็นกฎหมายล้าหลัง และปิดกั้นสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น การแสดงออก และมองว่าเป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมือง ซึ่งที่ผ่านมารัฐได้ใช้ กฎหมาย ม.112ในการทำลายฝ่ายตรงข้าม และการดำเนินคดีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และการแสดงความคิดเห็นที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน
พร้อมและมองว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นองค์กรของรัฐ ต้องตรวจสอบได้ วิพากวิจารณ์ได้ ซึ่งหากมีการยกเลิก จะทำให้คลายข้อสงสัยกับสถาบันกษัตริย์ที่เป็นข่าวสารมากมายโดยไม่เปิดเผย และก็จะทำให้สถาบันได้มีโอกาสทำความเข้าใจอย่างตรงไปตรงมากับประชาชน รวมถึงจะทำให้สาบันมีทศพิธราชธรรม อยู่กับประชาชนได้อย่างสง่างาม อีกทั้งยังมีเสรีภาพมากขึ้น การเมืองก็จะดีขึ้น โดยไม่ถูกกล่าวหาโจมตี และจะไม่มีการใช้ความรุนแรง
ส่วนการต่อสู้ในการยกเลิก ม.112ครั้งนี้จะมีการเคลื่อนไหวที่เป็นการชุมนุม ไม่เหมือน10ปีที่แล้ว และจะเคลื่อนไหวในประเทศ เพราะมีประชาชนเห็นด้วยในการยกเลิก ม.112 จำนวนมาก และจะเคลื่อนไหวในขอบเขตนานาชาติ ซึ่งวันนี้มาใช้วันสิทธิมนุษยชนสากล เพื่อบอกยูเอ็นในฐานะรัฐบาลไทยที่เป็นสมาชิก ต้องปฏิบัติตามพันธสัญญาด้านพลเมืองและเมื่อรัฐบาลนำกฎหมายม. 112 มาใช้ก็จะขัดต่อหลักการสากลและการแสดงความคิดเห็น โดยหลังจากนี้ก็จะส่งจดหมายไปยังองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลก เพื่อให้สนับสนุนการต่อสู้ของคนไทยในการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์และมีหลักประกันในสิทธิเสรีภาพ รวมถึงเดือน พ.ค.จะมีการประชุมผู้นำสหประชาชาติทั่วโลก โดยกลุ่มตนเองจะส่งตังแทนไปร่วมประท้วงที่กรุงเจนิวา ประเทศสวิซเซอร์แลนด์ที่จะมีการประชุมกันด้วย
นายสมยศ ยังบอกอีกว่า มีกฎหมายหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ควบคุมอยู่แล้ว ก็สามารถใช้สิทธิในการปกป้องตนเองในคดีหมิ่นประมาทได้
สำหรับบรรยากาศการจัดกิจกรรมหน้าองค์การสหประชาชาติ มีการใช้รถซาเล้งติดเครื่องขยายเสียงตั้งเป็นรถปราศรัย และมีผู้ที่เป็นอดีตนักโทษ ม.112 ร่วมทำการปราศรับถคงการถูกดำเนินคดี ม.112 ด้วย และมีการทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อื่นๆด้วย
ด้าน พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 บอกถึงกรณีการชุมนุมทำกิจกรรมเนื่องในวันรัฐธรรมนูญซึ่งจัดขึ้น 3 จุดในวันนี้ ได้แก่ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา หน้ายูเอ็น และที่หน้ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ว่า ตำรวจได้เตรียมกำลังดูแลเหตุการณ์ตามปกติ ซึ่งการทำกิจกรรมต่างๆ ในวันนี้ ผู้จัดได้แจ้งการชุมนุมแล้วทุกที่ตามกฎหมาย สำหรับที่หน้ายูเอ็น จะมีการยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการใช้กฎหมายในประเทศไทย ก่อนผู้ทำกิจกรรม จะไปรวมตัวที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ซึ่งจุดนี้เป็นพื้นที่ปิด แต่ผู้จัดได้ขอใช้พื้นที่กับมูลนิธิและแจ้งการชุมนุมเพื่อใช้ทางเท้าไปแล้ว ส่วนที่กระทรวง พม.ทราบว่าเจ้าหน้าที่มีการชี้แจงเพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนรับหนังสือข้อเรียกร้องผู้ชุมนุม ฝั่งตำรวจก็จะประเมินสถานการณ์ทุกชั่วโมง
