อนามัยโลก เตือน!! วัคซีนยังไม่อาจหยุดโควิด-19 ได้

9 ธันวาคม 2563 ดร.มาร์กาเร็ต แฮร์ริส จากองค์การอนามัยโลก ถูกผู้สื่อข่าวซักถามในวันนี้ว่า วัคซีนจะผลิตออกมาได้ทันป้องกันการระบาดระลอกสามในยุโรปหรือไม่ เธฮตอบว่า วัคซีนเป็นเครื่องมือที่ดีเยี่ยม และมีประโยชน์มากๆ แต่ผลลัพธ์ของวัคซีนที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันในสังคมยังคงห่างไกลนัก โดยการแพร่ระบาดจะหยุดยั้งได้เมื่อประชากรโลกมากถึง 60-70% มีภูมิคุ้มกัน ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำเพื่อป้องกันการระบาดพุ่งสูงขึ้นในขณะนี้ คือ มาตรการป้องกันทางสาธารณสุข

คำเตือนนี้มีขึ้นในวันเดียวกับที่อังกฤษเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอเอ็นเทคแก่ประชาชนเป็นกลุ่มแรกในวันนี้ โดยมาร์กาเร็ต คีแนน วัย 90 ปีเป็นคนแรกในโลกที่ได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค อังกฤษมุ่งฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไปและบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขและผู้ดูแลในบ้านพักคนชรา
ขณะที่อิสราเอลกำลังจะได้รับวัคซีนล็อตแรกจากไฟเซอร์ในวันพฤหัสบดีนี้ และเตรียมฉีดให้กับผู้สูงอายุและประชากรในกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ โดยอิสราเอลบรรลุข้อตกลงกับทั้งสองบริษัทเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อจัดซื้อวัคซีน 8 ล้านโดส

นอกจากนี้ตุรกีอาจเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัท ซีโนแวค ของจีนแก่ประชาชนได้ภายในสิ้นเดือนนี้ หากกระบวนการพิจารณาอนุมัติเสร็จสิ้น โดยคาดว่าวัคซีนจะถูกส่งถึงตุรกีหลังวันที่ 11 ธ.ค. วัคซีนดังกล่าวอยู่ระหว่างการทดสอบระยะที่ 3 ในตุรกีและอีกหลายประเทศ และยังต้องรอผลการทดสอบและวิเคราะห์อีก 2 สัปดาห์ ตุรกีทำสัญญาซื้อวัคซีนที่มีชื่อว่า "โคโรนาแวค" 50 ล้านโดสจากซีโนแวคเมื่อเดือนที่แล้ว และวัคซีนจะถูกส่งมอบระหว่างเดือน ธ.ค.-ก.พ.
นอกจากนี้อินเดียเตรียมพิจารณาอนุมัติวัคซีนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยขณะนี้มีบริษัท ภารัต ไบโอเทค ของอินเดีย, ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค และแอสตราเซเนกา ที่ได้ยื่นคำขออนุญาตในอินเดียเพื่อให้วัคซีนที่บริษัทผลิตสามารถใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินได้