กรุงศรีคาดเงินบาทปี 64 แข็งสุด 29 บาท/ดอลลาร์

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทยและดอกเบี้ย คาดการณ์ว่า กนง.จะตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ตลอดปี 2564 แต่ความเสี่ยงด้านขาลงของเศรษฐกิจยังมีสูงท่ามกลางความไม่แน่นอน โดยมีจุดเปราะบางสำคัญอยู่ที่การจ้างงานและหนี้ภาคครัวเรือน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจีดีพีปี 63 จะติดลบ 6.4% ส่วนปี 64 จะโตที่ 3.3% ขณะที่การส่งออกปี 63 ติดลบ 7.5% ปี 64 อยู่ที่ 4.5%
ส่วนปัจจัยที่ชี้นำค่าเงินบาทยังต้องติดตาม ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยยังคงเกินดุลขณะที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างช้าๆ ทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง สามารถรับมือกับการไหลออกอย่างรวดเร็วของเงินทุน มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อลดความผันผวนของค่าเงินบาท จากราคาทองคำและกระแสเงินร้อนในรูปแบบการผ่อนคลายกฎเกณฑ์สำหรับการออกไปลงทุนต่างประเทศ ส่วนปัจจัยอื่นๆที่ต้องติดตาม คือการพัฒนาและกระจายวัคซีนโควิด-19 อย่างทั่วถึง สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 การปิดเมืองหรือการกลายพันธุ์ และบทสรุป Brexit
ขณะที่นโยบายธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะถูกประเมินด้วยการจ้างงานที่ขาดหายไปจากระดับสูงสุด ตลาดคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะอยู่ที่ระดับต่ำเป็นเวลานาน ทั้งนี้ หากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแต่เฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยจากปัจจุบันที่ 0-0.25% อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงจะลดลงส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า
สำหรับนโยบายการค้าสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ความตรึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐจะลดลง แต่ยังคงเป้าหมายในการสกัดกั้นอำนาจจีน ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับชาติพันธมิตร โดยกลับมาเจรจาหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (CPTPP) ส่วนนโยบายการคลังจะเพิ่มการเก็บภาษีจากผู้มีรายได้สูงและนำมาใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์/ชั่วโมง จากเดิม 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมง